เมื่อวานได้ลอง grading สีจากกล้อง BMPCC จริงจัง เอาแบบว่าใช้งานจริงน่ะครับ
ผมรู้แล้ว... ว่าทำไมไม่ค่อยมีใครใช้
หรือซื้อมาใช้แล้วก็รีบขายต่อโดยเร็ว...
ลองเล่นกับใช้งานจริงมันคนละอารมณ์ครับ
ไม่กี่เดือนก่อนผมได้ทดลองกล้อง DEMO ของทาง Dealer ตอนนั้นสนุกครับกล้องมันเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ
ตอนนี้ได้มาอยู่ในมือ
ใช้ทำงานจริง ถ่ายน่ะไม่เท่าไหร่ครับ... ตอน Post-production สิครับ...
...ให้ดูภาพเลยก็แล้วกัน...
Contrast ท่านจะตุ่นไปไหน... สีก็ไม่น่าดูชม
เค้าว่ากันว่า out put ออกมาล่ะแจ่มเลย... ก็ลองดูครับ
ใช้ Sony Vegas ที่ถนัดนี่แหละ งานจะได้ออกมาเร็วๆ...
แต่ผลออกมา...
แย่มากครับ (ไม่มีภาพให้ดูนะครับ ปวดใจรีบลบทิ้งโดยเร็ว) render ออกมาแล้วปวดตับจริงๆ
ไม่คม...ยังไม่พอ แถมยังได้สีเป็นปื้นๆอีก
เอาล่ะสิ ต้องหาทางออก ถ่ายใหม่ก็ไม่ได้
ทางแรกที่หันไปพึ่งเลยก็คือ DaVinci Resolve 11 lite โชคดีออก Version 11 เลย
ขอบอกว่าแจ่มมากครับ เพราะมี function ตัดต่อในตัว + ทำสีเบ็ดเสร็จ
ใครที่อยากเริ่มใช้โปรแกรมตัดต่อ ผมแนะนำให้ไป DaVinci Resolve เพราะครบจริงๆ (ยกเว้น CG)
ที่สำคัญ version lite ฟรีนะครับ ตัดงาน ส่งงาน ไม่ต้องกลัวโดนจับลิขสิทธิ์
ใน DaVinci Resolve lite มี LUT หรือ Look Up Table ที่ทำให้ไม่กี่ click ก็ได้ภาพที่สวย
ลองแล้วประทับใจ... แต่ติดอยู่ที่ต้องใช้จอ resolution สูงหน่อย โปรแกรมจะได้เห็นเต็มจอ
พอดีว่าผมมีแต่ notebook ไม่ได้พกจอแยกมาด้วย ก็เลยใช้งานลำบาก (มากๆ)
อีกทั้งต้องมาคลำหาวิธีการใช้งาน การปรับ sound... ก็เลยสรุปว่า...
ต้อง Sony Vegas ล่ะ... ต้องทำงานออกมาให้ได้...
ก่อนอื่นต้องดู Spec file ที่ได้ครับ
ฺBMPCC ถ่ายที่ ProRes LT (ค่ากลางๆ) - Overall bit rate : 87.5 Mbps
Chroma subsampling : 4:2:2
Bit depth : 10 bits (ถ้าถ่าย RAW ท่านจะได้ 12 Bit)
Bits/(Pixel*Frame) : 1.699
เคยใช้ DSLR 600D ใช้ Magiclantern - Overall bit rate : 41.1 Mbps
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Bits/(Pixel*Frame) : 0.763
พอเห็น Bit depth กับ Bits/(Pixel*Frame) ล่ะก็ถึงบางอ้อเลยครับ ห่างกันเป็นเท่าตัว
มิน่าล่ะ project property เดิมๆจึงไม่เหมาะสม
ถ้าอยากรู้เรื่อง Bit... อ่านต่อที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Digital_videohttp://en.wikipedia.org/wiki/YUVhttp://en.wikipedia.org/wiki/Color_depthขั้นแรกผมเปลี่ยน Project Property ก่อนให้เป็นตามภาพครับ
* ปรับที่ Pixel format : ให้เป็น 32bit floating เพื่อขยายขอบเขตสี (แม้ว่าจอ notebook จะไม่เห็นผลก็ตาม)
** Compositing Gamma ผมใช้ 1 ครับ อยากรู้ว่า 2 เป็นไงก็ลองเล่นดู
เมื่อผมขยายขอบเขตสีของ project แล้วก็เริ่มละเลงเลยครับ
*** การปรับแสงสีที่แสดงให้ดูนั้นเป็นแนวทางนะครับ ไม่ใช่สูตรสำเร็จรูป
แล้วผลก็ออกมาดังนี้ครับ
Skin tone สีสวยได้อย่างใจเลยครับ
ความคมชัดดีกว่า DSLR เล็กน้อยครับ แต่ถ้าเจาะจงที่เส้นผมล่ะก็เห็นชัดอยู่
การปรับทุกครั้ง ผมใช้ Waveform และ RGB Parade ดูควบคู่ไปด้วย
และก็ Vectorscope ตอนท้ายเพื่อเช็คแกนสีให้อยู่ตรงกลาง
Before
After
ครั้งหน้าผมขอใช้ DaVinci Resolve ดีกว่าครับ ปรับง่ายและละเอียดกว่าเยอะ
หวังว่าคงจะได้ idea จากการลองผิดลองถูกของผมนะครับ
หากมีวิธีอื่นอย่าลืมบอกผมด้วย หรือสงสัยก็ถามทางด้านล่างครับ
ปล. งานนี้ผมอัดเสียงด้วย clip mic เข้ากล้องโดยตรง เสียงดี ไม่จี่ ไม่ต้องใช้ Juice Link ตัวโปรด
spec เสียงที่เปิดดูจาก file ใช้จบงานไม่ต้องอัดแยกแล้ว sync (มิน่าล่ะเห็นคุณวีถ่ายหนังต่อ mic เข้ากล้องเฉยเลย)
BMPCC - Sampling rate : 48.0 KHz , Bit depth : 24 bits , Bit rate : 2,304 Kbps
600D ใช้ประจำ - Sampling rate : 48.0 KHz , Bit depth : 16 bits , Bit rate : 1,536 Kbps