สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 1705เข้าชม
  • 2ตอบกลับ

"ทำงานด้วยแรงกายกับทำงานด้วยสมอง."..ใครดีกว่ากัน

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

...ผู้ช่วยกล้องทำงานมานานครบ1ปี อยากเลื่อนเป็นช่างภาพเต็มตัว แต่ไม่ว่าจะพูดอธิบายอย่างไร
   ทางบริษัทก็ไม่ยอมให้เป็น ด้วยความน้อยเนื้อตำ่ใจ จึงคิดไปกระโดดนำ้ตาย
   เทวดาเห็นเลยปรากฏตัว และได้มอบกำไลข้อมือให้ พร้อมสั่งกำชับว่า
  "ถ้าเจ้าใส่กำไลเจ้าจะเป็นช่างภาพแต่ถ้าเจ้าถอดออกเจ้าจะกลับมาเป็นผู้ช่วยดังเดิม มีสิทธิ์ทำได้เพียง3ครั้งเท่านั้น "

..วันรุ่งขึ้นผู้ช่วยน้องใหม่ใส่กำไลมาทำงาน วันนี้มีคิวถ่ายการแสดงสดศิลปินดังทั่วฟ้าเมืองไทย
  ผู้ช่วยตั้งขาโรยสายติดตั้งอุปกรณ์พร้อมทำงาน ช่างภาพน้องใหม่ขึ้นถ่าย โอบีสั่งจับคนดู,
  จับคนเล่นกัตาร์,จับมือกลอง,ซูมอินจับคนร้องครึ่งตัว ซูมเอาท์เต็มตัว
  อารมณ์เริ่มหงุดหงิดเพราะไม่ได้ดูศิลปินที่ชื่นชอบ หันซ้ายดูผู้ช่วยนั่งโยกมันส์ในอารมณ์
  หันขวาเห็นผู้ช่วยทีมโอบียืนเต้นยึกยัก ชักไม่อยากเป็นช่างภาพแล้วไม่ได้เห็นอะไร
  เป็นผู้ช่วยสบายกว่า คิดแล้วก็ถอดกำไลออกกลับไปเป็นผู้ช่วยนั่งดูคอนเสิร์ตจนจบงาน(กลัวอะไรยังเหลือตั้ง2ครั้ง)

...วันที่2 ใส่กำไลมาแต่เช้า คิววันนี้มีถ่ายแฟชั่น ผู้ช่วยติดตั้งอุปกรณ์พร้อมทำงาน
   ลูกค้าสั่ง "เวลานางแบบเดินออกมาต้องเห็นเต็มตัวว่าใส่อะไรบ้าง แล้วใกล้ที่หน้าไล่ลงมาถึงเท้า
   เพื่อเน้นรายละเอียด ส่วนด้านหลังต้องถ่ายจากเท้าขึ้นบนเพื่อเห็นรายละเอียดเช่นกัน"
   งานถ่ายจริงนางแบบเดินออกมาพร้อมกันซ้ายขวา เริ่มสับสนไม่รู้จะถ่ายคนไหนก่อน
   ถ่ายใ้กล้มืดตัองเพิ่มแสง ขณะเดียวกันตัองปรับโฟกัสตาม นางแบบเดินเข้ากล้องปรับโฟกัสยาก
   แถมต้องซูมเอาท์ตาม งานนี้ยากเกินกว่าที่คิดถ่ายไปโดนด่าเละแน่ๆ วันนี้นางแบบใส่โนบาร์ทุกคน
   "กลืนนำ้ลายเอื๊อก" หันซ้ายผู้ช่วยนั่งดูนำ้ลายยืด หันขวาผู้ช่วยควบคุมเสียงนั่งมองตัวแข็ง แพ้ใจตัวเอง
   งานนี้ไม่ขอเป็นช่างภาพแล้วกัน เป็นผู้ช่วยอย่างเดิมนั่งดูสบายตากว่า (เหลืออีก1ครั้งยังมีโอกาส)

...วันที่3ใส่กำไลมาสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ถอดออก
   วันนี้คิวถ่ายสารคดีถ่ายเช้าถึงเย็นงานผ่านไปด้วยดีได้เป็นช่างภาพสมใจ
   วันรุ่งขึ้นบริษัทเรียกตัวด่วนเข้าพบ "งานที่ถ่ายมาเมื่อวานโฟกัสเบลอ3ฉาก งานเสียหายตัองถ่ายใหม่
  ทั้งฉากทั้งนางแบบรวมค่าเช่าสตูดิโอเป็นเงินทั้งสิ้น300,000บาท จ่ายมาซะดีๆ"
..ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าช่างภาพคนนี้รีบถอดกำไลออกและขอกลับไปเป็นผู้ช่วยกล้องดังเดิม

...เริ่มเห็นความแตกต่างของผู้ช่วยกล้องกับช่างภาพแล้วยังครับ
- ผู้ช่วยทำงานด้วยแรงกาย อาจเหนื่อยตอนเริ่มงานกับเก็บของตอนจบ นอกนั้นนั่งชิวๆ
  เวลามีปัญหาก็ไม่ต้องรับผิดชอบ กลับบ้านนอนสบายรองานใหม่
- ช่างภาพทำงานด้วยสมอง อาจสบายตอนแรกแต่พอเริ่มงานก็ต้องเครียด
  จนกว่าจะจบงาน เพราะไหนจะต้องคอยเช็คโฟกัส,เช็คแสง,คอมโพส,อารมณ์ภาพ ฯแถมผ่านไปหลายวัน
  ยังต้องรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

...ผู้ช่วยกล้องหลายคนอยากเป็นช่างภาพเพราะเท่ห์ ไม่ต้องทำงานหนัก อยากได้ไรชี้นิ้วสั่ง
  แถมได้เงินก็มากกว่า แต่พอถึงคราวลำบากเริ่มไม่อยากทำ เช่น ถ่ายงานคอนเสิร์ตช่างภาพน้องใหม่
  อยากดูก็จะตั้งกล้องทิ้งไม่สนใจ (ภาพในกล้อง)..หรือเมื่องานถ่ายมีปัญหาก็จะแก้ตัวโทษนั่นนี่(ให้พ้นผิด)


อยากบอกว่า..
" ผู้ช่วยกล้องคนไหนที่มีความฝันอยากเป็นช่างภาพ จงฝันให้ตลอดแล้วคุณจะได้เป็น ขอเพียงอย่าหยุดฝัน"
...เพราะความสำเร็จที่คุณได้ ต้องแลกมาจากการทำงานด้วยสมองนั่นเอง"

..."และวันนี้ คุณกำลังทำงานด้วยแรงกายหรือด้วยสมองอยู่คับ"

www.p0p-it.blogspot.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
139
เงิน
2365
ความดี
1445
เครดิต
1522
จิตพิสัย
1410
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ข้อคิดดีครับ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่


หน้าที่กับความรับผิดชอบ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้