หนังสั้น : Change [SFF2]

หนังสั้น Change จากโครงการ Science film festival ครั้งที่ 2
เป็นหนังสั้นที่ทำกันแบบ(ดู)จริงจังเรื่องแรกของของทีม เรื่องที่สองของผมครับ ^^
คิดโครงเรื่องเขียนบทกันไม่กี่ชั่วโมง   ใช้เวลาถ่ายประมาณหนึ่งอาทิตย์ครับ ตัดต่ออีก 2 วัน
ถ่ายไปมีเปลี่ยนบทเฉพาะหน้าบ้าง มุขสดบ้าง ถ่ายนอกเรื่องบ้าง ตอนตัดต่อเนี่ยงงมากครับ - -"

อุปกรณ์ กล้อง JVC HDD ใช้ตัวเดียวทั้งเรื่อง , XL1 อัดเสียงพากษ์ (ทำไมไม่เอา XL1 ถ่ายหว่า?)  






ขอคำแนะนำติชมจากพี่ๆ Thaidfilm เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในการทำหนังสั้นเรื่องต่อๆไปครับผม

ขอบคุณมากครับ

^^  ออกกำลังกาย ใส่กระโปรงวิ่งเลย ...

ดีครับ ดี ^^

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 1 ต้นฉบับโพสโดย antoni เมื่อ 2011-03-12 01:54  :
^^  ออกกำลังกาย ใส่กระโปรงวิ่งเลย ...

ดีครับ ดี ^^

อ่ะจ๊ากกก!!~    ฉากนี้สังเกตุดีๆ ชุดที่ใส่อยู่ห้องกับตอนไปวิ่งคนละชุดกัน พลาดครับพลาด ถ่ายคนละวัน

ทำยังไงจะให้เสียงบรรยาย/เสียงพากย์ ไม่เหมือนอ่านเหมือนท่อง ลองบิวท์ให้ได้อารมณ์เหมือนกับว่า กำลังเมาท์แตกกันอยู่ในหมู่เพื่อนสนิท หรือ กำลังเล่าให้ญาติพี่น้องฟัง ... มันคงจะได้อารมณ์แบบธรรมชาติดี ...

มาถูกทางแล้วแหละครับ ที่เหลือก็แค่ดูจากของจริงเยอะๆ แล้วก็ลองเปรียบเทียบกับของเราดู

พวกบทพูดก็อย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ ว่ามันเหมือนท่อง ถ้าเราจะจริงจังกับการทำหนังจริงๆ ก็ซ้อมบทก่อน

จริงจังกับ acting มากหน่อย ลองเล่าเรื่องด้วยภาพแทนที่จะให้ตัวละครพูดจากปาก

จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ยากอะไรที่คนดูจะสามารถตีความได้จากอะไรเล็กๆ น้อย เช่นสีหน้า ท่าทาง ของตัวละคร

แทนที่จะให้ตัวละครเอ่ยปากบอกความในใจ ("นี่มหาลัยหรือเนี่ย ทำไมมันใหญ่อย่างนี้นะ")

ใส่เพลงประกอบเยอะไปก็ระวังกลายเป็น MV แทนที่จะเป็นหนัง

รวมๆ ดีแล้วครับ ทำบ่อยๆ ก็จะดีขึ้นอีกมากๆ เอาใจช่วยครับ

ตั้งแต่ผมเข้ามาเว็บนี้ ทำให้ผมติดภาพจาก DSLR
ถึงบางเรื่องจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ภาพจาก DSLR ก็ลากอารมณ์ให้ผมอยากดูอยู่ร่ำไป
เวลาเจอภาพจากกล้องวีดีโอแบบนี้ แล้วรู้สึกมันแปลกๆ ยังไงไม่รู้

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 3 ต้นฉบับโพสโดย vfspostwork เมื่อ 2011-03-12 02:41  :
ทำยังไงจะให้เสียงบรรยาย/เสียงพากย์ ไม่เหมือนอ่านเหมือนท่อง ลองบิวท์ให้ได้อารมณ์เหมือนกับว่า กำลังเมาท์แตกกันอยู่ในหมู่เพื่อนสนิท หรือ กำลังเล่าให้ญาติพี่น้องฟัง ... มันคงจะได้อารมณ์แบบธรรมชาติดี ...

ขอบคุณมากครับ 

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 4 ต้นฉบับโพสโดย poonkabonito เมื่อ 2011-03-12 08:50  :
มาถูกทางแล้วแหละครับ ที่เหลือก็แค่ดูจากของจริงเยอะๆ แล้วก็ลองเปรียบเทียบกับของเราดู

พวกบทพูดก็อย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ ว่ามันเหมือนท่อง ถ้าเราจะจริงจังกับการทำหนังจริงๆ ก็ซ้อมบทก่อน

จริงจังกับ acting มากหน่อย ลองเล่าเรื่องด้วยภาพแทนที่จะให้ตัวละครพูดจากปาก
.......

ขอบคุณครับ คือตอนถ่ายซ้อมกันรอบเดียวแล้วถ่ายเลยครับ 

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 5 ต้นฉบับโพสโดย starplays เมื่อ 2011-03-12 15:46  :
ตั้งแต่ผมเข้ามาเว็บนี้ ทำให้ผมติดภาพจาก DSLR
ถึงบางเรื่องจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ภาพจาก DSLR ก็ลากอารมณ์ให้ผมอยากดูอยู่ร่ำไป
เวลาเจอภาพจากกล้องวีดีโอแบบนี้ แล้วรู้สึกมันแปลกๆ ยังไงไม่รู้

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 4 ต้นฉบับโพสโดย poonkabonito เมื่อ 2011-03-12 08:50  :
มาถูกทางแล้วแหละครับ ที่เหลือก็แค่ดูจากของจริงเยอะๆ แล้วก็ลองเปรียบเทียบกับของเราดู

พวกบทพูดก็อย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ ว่ามันเหมือนท่อง ถ้าเราจะจริงจังกับการทำหนังจริงๆ ก็ซ้อมบทก่อน

จริงจังกับ acting มากหน่อย ลองเล่าเรื่องด้วยภาพแทนที่จะให้ตัวละครพูดจากปาก
.......

เห็นด้วยกับตรงที่ว่า "ลองเล่าเรื่องด้วยภาพแทนที่จะให้ตัวละครพูดจากปาก"  


นี่แหละครับ ส่วนหนึ่งที่ทำให้ "หนัง" ต่างจาก "ละคร" 

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 9 ต้นฉบับโพสโดย victormc49 เมื่อ 2011-03-12 23:29  :
เห็นด้วยกับตรงที่ว่า "ลองเล่าเรื่องด้วยภาพแทนที่จะให้ตัวละครพูดจากปาก" 
นี่แหละครับ ส่วนหนึ่งที่ทำให้ "หนัง" ต่างจาก "ละคร"

เห็นด้วยอีกทีครับ การเล่าเรื่องด้วยภาพของ ภาพยนตร์ ต่างจาก ละคร ต่างจากการรายงานข่าว, การถ่ายภาพ
แต่ละอย่างจะมีวิธีเล่าเรื่องต่างกันครับ....จึงเป็นที่มาของพวกคำว่า cinematography ที่ฮิตกันอยู่

ขอบคุณครับ คือจะต้องสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านภาพ มากกว่าคำพูด
และใช้การพูดเท่าที่จำเป็นใช่ไหมครับ ด้วยความเคารพครับ