http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=9698เข้ามาทำงานใช้หนี้ความรู้ ( เนื่องจากขอยืมไปใช้เป็นตัวอย่างในกระทู้ข้างต้น ) ตั้งใจว่าจะเขียนรายละเอียดทีเดียว ปรากฏว่าข้อความเยอะมาก
เลยขอยกมาเขียนไว้ในนี้แล้วกัน ( กลับไปอ่านก่อนนะคับ )...
- จุดด้อย บทอ่อนมากๆๆๆๆ ขาดการเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ สถานที่ และตัวบุคคล เช่น ตอนต้นไม่กล่าวถึงแม่เลยมากล่าวตอนจบ..
- บางเหตุผลขาดความน่าเชื่อถืือ เหมือนยัดเยียด แม่โทรฯมาแต่ไม่รับ ทั้งๆที่หลายเวลาหลายโอกาสรับได้ รถติด , ตอนเดินขึ้นรถ, หรือ
ปลีกตัวลูกค้าเข้าห้องนำ้โทรหาแม่ ความเป็นจริงยังเห็นคนเล่นบีบี แล้วเดินไปด้วย ทำไมแค่โทรฯง่ายกว่าเยอะแต่ไม่ทำ..
- อาม่าสอนลูกตัวเองให้ดีไม่ได้ แล้วทำไมจะมาสอนเราให้เป็นลูกดี นั่นหมายความว่าเด็กปัจจุบันไม่ดีไม่ผิด แม่ต้องยอมรับงั้นหรือ..
- เมื่อแม่โทรมา อาม่าจะถามทำไม ถ้าเพื่อนโทรมาล่ะ จะทำไมหรือ..
- คิดถึงแม่ทำไมไม่โทรเลยล่ะ มาวิ่งให้เหนื่อยทำไม...สงสารคนแสดง และคนถ่าย ...ฯลฯ เยอะเกินไปหรือเปล่า...
....อยากบอกว่า ถ้าไม่ถนัดเรื่องบท ก็ควรให้พี่ๆที่เก่งกว่าเราช่วยดู และพยายามคิดว่าสิ่งที่เราคิดและคิดมันคือความจริง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ที่คนทั่วไปทำกัน โปรดัคชั่นจริงๆเขาเน้นเรื่องบทและให้ความสำคัญมากๆๆ คนเขียนจะไม่คิดเองเออเอง ถ้าจะทำเรื่องวัยรุ่น เขาต้องไปนั่ง
ตามร้านที่เด็กๆไปกัน ฟังเด็กคุย ฟังเขาทะเลาะกัน จะได้รู้ว่าวิถีชีวิตจริงเป็นยังไง สำหรับเรื่องนี้ ถ้าจะปรับบทให้ดีและแน่น มีเหตุผลที่เป็นไปได้..
1. - ถ้าต้องการให้น้องตัวแสดงยุ่งไม่มีเวลาโทรฯ ก็คือ ต้องทำให้ยุ่งจริงๆจนไม่มีเวลาโทรฯ เช่น ประชุมเสร็จ ลูกค้าคุยต่อ เดินออกมาเจอหัวหน้า
หิ้วขึ้นรถ แล้วคุยงานต่อในรถ ทุกอย่างรีบเร่ง รถวิ่งเร็ว จนไปถึงตลาด ก็ยังคงวิ่งอยู่ แต่อาม่าเดินออกมาเห็นก็เลยตะโกนเรียก ...
" จะรีบไปไหน ชีวิตเรายังมีอย่างอื่นที่ดีกว่างานอีกนะ ถ้าเราหยุดดูแล้วเราจะเห็น เข้ามาข้างในก่อนซิ เดี๋ยวอาม่าจะเอานำ้เย็นมาให้ "
..เป็นการเปลี่ยนอารมณ์จากที่รีบเร่งมาหยุดที่บ้านอาม่า ซึ่งมีบรรยากาศสวยงาม ทีนี้ใส่เรื่องราวเข้าไปได้แล้ว...เสริมเพลงอีกแจ๋วเลย..
2. - ไม่รีบเร่ง แต่ต้องการไม่ให้น้องรับโทรฯของแม่ ต้องเริ่มอาจมีการทะเลาะไม่ลงรอยกัน เช่น เช้าแม่มาปลุก เตรียมข้าวนำ้ที่โต๊ะ กินเสร็จก็มี
แซนวิสใส่กล่องพร้อมนำ้ส้มคั้นใส่กระติกให้ ก่อนขึ้นรถจัดเสื้อผ้าให้ แต่ตัวน้องงอแงว่าหนูโตแล้วแม่อย่าทำแบบนี้หนูไม่ชอบเลย แล้วขึ้นรถ
ขับออกไปอย่างโมโห พอทำงานแม่โทรมาน้องไม่โทรกลับ คนดูก็รู้เหตุผล...เมื่อถึงร้าน อาม่าพูดถึงว่าแม่ขอเพียงให้เราอยู่ดีมีความสุขก็พอ
ช่วงนี้ย้อนภาพกลับตอน กินแซนวิสบนรถ กินนำ้ส้ม แล้วก็มองมาที่เสื้อผ้าที่แม่เป็นคนจัดให้..ทำให้นึกถึงแม่ แต่ไม่โทรยังเขินอาม่าอยู่ แต่ขากลับ
แวะซื้อขนมหวานอร่อยในตลาดกลับไปหาแม่ที่บ้าน แม่แปลกใจที่กลับมาเห็นลูกไม่โมโห แต่ลูกกลับแล้วมากราบที่เท้าแม่บอกขอโทษ..( ต่อเองนะ )
3. - ถ้าไม่ต้องการให้รับโทรฯจากแม่จริงๆ ต้องให้น้องคนนี้ทำงานในสถานที่มีเสียงดังตลอดเวลา เช่น งานคอนเสริ์ต, งานสัมมนา ประชุม ห้ามรับ
หรือแบตหมดฯ หรือไม่ก็เปลี่ยนอาชีพไปเป็นสถาปนิก ออกไซด์งานที่มีเครื่องก่อสร้างเสียงดัง อยู่ข้างนอกแล้วแบตหมด อาจไปเจอร้านอาม่า
ขายข้าวแกงข้างไซด์งานมีรูปพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จฯ ก็เข้าเรื่องได้เหมือนกัน เพราะสถาปนิกเวลาออกไซด์คุมงานแล้วยากจะกลับเข้า
ออฟฟิศ เพราะสถานที่ก่อสร้างบางที่ไกลและเข้าออกลำบากก็สามารถทำได้....
....อยากฝากเน้นยำ้อีกครั้งว่า สำหรับน้องใหม่ที่ต้องการทำหนังสั้น อยากให้ความสำคัญกับบทเนื้อเรื่องให้มาก อย่างที่ผมยกตัวอย่างให้ฟังว่า
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังไปปล้นแล้วเอาเงินมาแจกชาวบ้าน ควรให้นำ้หนักตรงนี้ว่าเป็นไปได้หรือที่คนปล้นแล้วเอาเงินไปแจกชาวบ้าน ปล้นแล้วทำไมไม่
เอาไปใช้จะมาเสี่ยงชีวิตทำความผิดแทนคนอื่นทำไม แต่น้อยคนที่จะพูดถึงประเด็นนี้ กลับไปให้ความสำคัญกับอุปกรณ์กล้อง ไฟ ตัวบิน และการตัดต่อ
อยากบอกว่า ถ้าบททำกันได้ง่ายๆ คือนึกขึ้นมาแล้วทำเลย ป่านนี้คนเขียนบทคงตกงานกันเป็นแถวแล้วคับ.....
แต่ขอชม บทตอนที่อาม่าพูดคุยกับน้อง ดีมากอธิบายซะละเอียด เพราะเห็นเป็นประเด็นหลักตามโจทย์ แต่ระวังประเด็นรองก็สำคัญเหมือนกันนะ..
.....อ้อเกือบลืม หนังสั้นเรื่องนี้ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกันเยอะพอสมควร ฉนั้นต้องระวังไม่ทิ้งตัวละคร หรือปล่อยให้นานเกินไปจนลืม
- แม่ - น้อง - ไม่รับโทรศัพท์- งาน - รถติด - อาม่า -
[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-09-05 09:15 ]