ทำได้อย่างน้อย 3 จุดครับ คือ
หนึ่ง ... จั๊มสัญญาณแยกออกมาเลย (อาจจะจั๊มเอง หรือ ผ่านมิกเซอร์) ...
สอง ... ดูที่ซาวด์การ์ด ถ้า spec มีบอกว่า เป็น direct monitoring สามารถเซ็ตค่า (ในไดรเวอร์ของการ์ดนั้น ๆ) แล้วต่อผ่านช่อง Headphone ออกมาฟังได้ ซึ่งสัญญาณตรงนี้ การ์ดจะต่อตรงมาจากช่อง Line In หรือ Mic In จะคล้าย ๆ แบบที่หนึ่ง แต่การ์ดจะจั๊มตรงให้เอง สัญญาณจึงไม่ได้ผ่านการโปรเซสของซอฟแวร์ ซึ่งหมายความว่าเอฟเฟกต์อะไรต่าง ๆ ที่เราเซ็ตไว้ในซอฟแวร์ตัวที่ใช้ทำซาวด์ เราจะไม่ได้ยินผลของมัน เช่น พวก EQ, Reverb ฯลฯ แต่ถ้าหากต้องการได้ยินตรงนี้ด้วย ไปดูวิธีการที่สาม ...
สาม ... ทำในซอฟแวร์ (แต่ตัวการ์ดอาจจะต้องซัพพอร์ตด้วย) คือ ซาวด์การ์ดที่เป็นระดับสตูดิโอ จะมีไดรเวอร์มาให้ เรียก ASIO ซึ่งจะสนับสนุนซอฟแวร์ทำเสียงตัวหลัก ๆ อีกที (Pro Tool, Nuendo, WaveLab, Logic ฯลฯ) หลักการคือ ไปตั้งให้ค่า Latency ซึ่งเป็นบัพเฟอร์ระหว่างสัญญาณที่ Input เข้ามา และ Output ออกไป มีค่าน้อย หรือมีค่าเป็น 0 เมื่อ Latency ต่ำ เสียงที่เข้ามา และ ส่งออกไป (เข้าลำโพง / หูฟัง) จะเป็นแบบ Realtime (รวมถึงได้ยินผลของเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่เราเซ็ตให้กับแทรคซาวด์นั้น ๆ ด้วย)
สำหรับการ์ดซาวด์ทั่วไป (หรือ on-board) ปกติผู้ผลิตจะไม่ทำไดรเวอร์มาให้ แต่จะมีโปรแกรมที่ทำให้ตั้งค่า Latency ได้ คือ ASIO4All ตรงนี้ลองหามาใช้ดูได้ ... สำหรับการใช้งานอาจจะต้องระวังนิดนึงคือ การตั้งค่า Latency ที่ต่ำเกินไป จะมีผลต่อคุณภาพเสียงที่ออกมา และ มีเป็นภาระต่อคอมพิวเตอร์ ... เรื่อง Audio Latency ลองหาดูตามเน็ต หรือ ที่นี่ก็ได้ครับ
http://www.soundonsound.com/sos/jan05/articles/pcmusician.htmลองเลือกวิธีที่เหมาะสมครับ (ผมพูดทั่วไป ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเป็น Audition) ...