สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 8783เข้าชม
  • 67ตอบกลับ

เมื่อไรจะคืนทุน เมื่อไรจะรวย ถ้าไม่ใจรักอยากรู้นักว่าจะทำกันไหม

โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ถ้ามีเป็น เรทมาตรฐาน ขึ้นมา ผมว่ามันคงจะวุ่นวายกันเข้าไปใหญ่ ในการต่อรองราคา คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุด น่าจะเป็นพวกที่จ้องตัดราคา และทำให้คนที่ทำเป็นอาชีพต่อรองลูกค้าได้ยากขึ้น คนที่เสียเปรียบที่สุด คือ คนที่ทำเป็นอาชีพ ใช้วิชาชีพเลี้ยงชีพจริงๆ ฝากดูตรงนี้ด้วยครับ  



รู้ว่าคุณ ake คิดดี แต่ระวังมันเป็น pandora box นะครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
motion-a เงิน +1 2010-12-19 เห็นด้วยอย่างยิ่งยวดๆ
โพสต์
1149
เงิน
24508
ความดี
27478
เครดิต
29649
จิตพิสัย
27085
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ลูกค้าก็เหมือนเราล่ะครับ
ต้องใช้เวลาและประสบการณ์
กว่าจะเจอทีมงานที่ทำงานกันได้ พูดจากันรู้เรื่อง ได้ราคาที่พอใจทั้งสองฝ่าย



เรตราคากลางไม่มีประโยชน์เท่าไหร่
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
motion-a เงิน +1 2010-12-19 เห้นด้วยอย่างยวดยิ่ง
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
อย่างผม เวลาเค้าถาม ทำกราฟฟิค ทำโลโก้ แบบนี้ๆ คิดเท่าไหร่ ผมยังตอบไม่ได้เลย ส่วนใหญ๋ก็ พี่พอใจเท่าไหร่ ก็ให้แล้วกัน
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ผมก็กลัวว่าจะเป็นอย่างพี่โก้ พี่ป้อมว่าล่ะครับ ก็เลยไม่ถามซักที
เท่าที่ดูแล้ว rate ราคากลาง กับ สูง ไม่น่าห่วงครับ

แต่มือใหม่ที่เข้ามา
ปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าจะคิดราคาเท่าไหร่?
ฝีมือแบบนี้ราคาเท่าไหร่?
ก็เลยตั้งราคาให้ต่ำเข้าไว้

จะดีมั้ยครับ ถ้า เราช่วยกัน รวมกลุ่มกัน เอางานมาดูเลยว่า ถ้างานถ่ายลักษณะแบบนี้ราคาจะเป็นอย่างไรในขั้นต้น
แล้วทำเป็นหน้า page ราคาเริ่มต้น หน้านี้จะใช้เป็นหน้าอ้างอิงเรื่องราคาเริ่มต้นได้ครับ

(พิมพ์ไป คิดไป เห็นว่ามีหลายมิติ มากๆ )

แต่ก็นะ...
อย่างน้อยก็ช่วยตอบมือใหม่ที่ได้งานครับ
ว่า...ราคาควรจะเป็นเท่าไหร่
การตั้งราคาที่ต่ำ จนดูเหมือนตัดราคาจะลดลง

พวกที่ตัดราคาอย่างน่าใจหาย ในทุกธุรกิจมีครับ
สงครามทางด้านราคาดุเดือด คนที่ขายถูกมากโดยไม่มีอะไร support อยู่ไม่ได้ครับ
แต่ก็มีบางกลุ่มที่ขายราคาเดิม (กลางๆถึงแพง) ก็สามารถอยู่ได้ด้วยความมั่นใจจากฐานลูกค้าที่มี
อันนี้ก็ต้องมาต่อด้วยเรื่อง brand position ครับ ยาวเลย...
(รถอะไรซักยี่ห้อ ขับแล้วก็งั้นๆ ไม่ได้ดีกว่าชาวบ้านมากมาย แต่ราคานี่สิ แม่เจ้า... เข้าตั้งราคาเพื่อ brand position จริงๆ )

ก่อนจบมีเรื่องนึงเล่าสู่กันฟังครับ
มีร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่ง เปิดใหม่ ติดป้าย cutout ใหญ่โตมโหฬาร
"ถูกกว่านี้มีที่ไหน ไม่มีแล้ว มีที่เรา"
จริงๆครับ ถูกจริงๆด้วย ผ่านไปไม่กี่ปี ไม่มีแล้วจริงๆ
ปิดกิจการไปเลย
การลดต้นทุนคือการลดรายจ่ายในบางส่วนลง
ถ้าอยากลดมากกว่านั้นก็ต้องเฉือนเนื้อของตัวเอง
เฉือนมากเข้าก็...

เรื่องนี้ละเอียดอ่อนครับ
อาจทำให้เป็นเรื่องระคายใจหลายๆท่านก็ขออภัยด้วยนะครับ
อยากให้การตั้งราคาที่ต่ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์... ลดลง...
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
การตั้งราคาต่ำ ทำให้เราแค่อยู่ได้ แต่พัฒนาต่อไม่ได้
เพราะไม่มีเงินทุนพอที่จะนำมาลงทุนซื้ออุปกรณ์ดีๆ
มาต่อยอดความสามารถของเราครับ

เรื่องราคาลองศึกษาเทคนิคการขาย การหว่านล้อมดูครับ ช่วยได้
ทื่อๆ ซื้อๆ เขาไม่ควักกระเป๋าง่ายๆ หรอกครับ

ปากเป็นเอก เลขเป็นโท โกฮอลลีวู๊ด
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
389
เงิน
15063
ความดี
12981
เครดิต
13443
จิตพิสัย
11929
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 20#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ผมเอาประสบการ์ณ แลกเงินมาเลี้ยงชีพอะครับ ไม่เน้นอุปกรณ์ มาวัดกันที่งานที่ออกมาดีกว่า แต่หากลูกค้าไม่เข้าใจ ก็ยังมีลูกค้าที่ จะไว้ใจในฝีมือ คุณนะ ผมเชื่อมั่นอย่างนั้น บางงานผมไปทำฟรี ผมยังรู้สึกดีเลย ได้ทำสิ่งที่อยากทำ ชีวิตมีแค่นี้แหละ  
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
แจมด้วยคับ ตั้งมาตราฐานราคาทำม่ายหล่ายครับ ยืนยัน สมัย 20ปีก่อนนู้นๆๆๆๆ โปรดัคชั่นเคยรวมตัวแบบนี้แะก็ไปไม่รอดครับก็เลยเปลี่ยนมาเป็นขึ้น
บัญชีดำพวกบริษัทอีเว้นท์แทน หมาความว่า งานอีเวนท์พอจ้างเราไปถ่าย งานขึ้นจอ ตัดต่อโอบีอะไรทำนองนั้น พอเสร็จงานก็โอ้เอ็ อ้างนู่นด้างนี่ว่า
ทำงานไม่ดี( ก็งานเสร็จเรียบร้อยแล้วนี่ ลูกค้าแฮปปี้  ) ทีนี้ทวงไปเถอะอย่าหวังว่าจะได้เงิน พอบริษัทนี้ไม่ทำก็ไปจ้างที่อื่นทำ และทำแบบนี้ไปเร่่ือยๆ
พอทุกบริษัทรู้หมดอีเว้นท์นี้ทำไงรู้ไม๊ครับ เปลี่ยนชื่อบริษัท แล้วทำแบบนี้ใหม่ ต่อให้คุณคิดราคาถูกแพงมาตราฐานยังไง เจออีเว้นท์แบบนี้ก็หมดแรง
เหมือนกัน ตอนนั้นเคยรวมตัวกันแบบนี้ แต่เป็นกลุ่มเล็กๆของผมเท่านั้นน่ะ ทุกวันนี้อีเว้นท์ไม่รับ ไม่มีเงินอดตายก็ยอมดีกว่า รับงานมาแล้วไม่ได้เงิน หรือ
ถ้ามีงานนอกกลุ่มมาแบบไม่รู้ใครแนะนำมา อ้างนู่นนี่ งบเยอะงานง่าย พวกนี้ให้ระวังให้ดีนะครับ ผมเช็คเลยถามคำแรก เจ้าของบริษัทชืออะไร ใครถ่าย
ใครตัด ใครโปรดิวเซอร์ อย่างน้อยต้องมีคนที่เรารู้จักซักคน แต่ถามไปก็ไม่รู้จักหรอกครับ เพราะเด็กรุ่นใหม่พ่อมีตังค์เรียนเสร็จฝากทำงานในราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ตัวเองส่งงานให้ลูกทำแถมเปิดบริษัทแข่งอีก ดีที่สุดเช็คกับคนในวงการ ถ้าไม่มีลองคุยบอกเอาเงินมาวางก่อน 70 % กำไร 30% ไม่ได้ช่างมัน เพราะอะไร คือจบงานไม่ได้เงินก็ช่างมัน เอามันโขว์ฝีมือ เผื่อได้รู้จักคนอื่น คิดแค่นี้จริง ๆ แนะนำนิดนะครับสำหรับน้องๆที่จะรับงาน อันนี้ผมถือเป็นกฏส่วนตัวผนะครับ สมมติมีรายการทีวีติดต่อมา ด้วยอะไรไม่รู้ ให้ทำเหมาจ่ายมาทั้งก้อน ถามตัวเองว่า เรามีอะไรซัพพอร์ทงานนี้ได้บ้าง เช่นมีกล้อง
มีเครื่องตัดต่อ มีคนกำกับ มีฯลฯ ไม๊ ถ้าไม่มี อย่าหาญรับงานนี้ บอกเขาไปตรงๆ สมมติ 1 แสน แต่ส่วนคุณทำได้ 1 อย่าง แค่ 1 หมื่น อย่ารับเป็นแม่งาน
เอง  ถ้าลูกค้าไม่จ่ายเงิน คุณได้ 1 หมื่น แต่เป็นหนี้ 1 แสนนะครับ บอกเขาไปตรงๆว่าผมทำได้แค่นี้ ถ้าลูกค้าเขาอยากได้คุณเขาจะช่วย
หาวิธีแก้ไขเอง บอกเขาว่า ส่วนอื่นคุณไปหาเอาเองนอกจากนี้หรือจะให้ผมหาให้ก็ได้ แต่คุณเป็นคนจ่ายเงินนะ และเวลาติดต่อคนอื่น ห้ามอ้างบุญคุณ นะ
ระวังให้มากๆ ไม่ใช่ไปจ้างดาราคนนั้นมาบอกงานพี่เองไม่ต้องห่วง นั่นล่ะตายเลย เวลาผมรับงานผมจะบอกเลยว่าน้องรับไม๊ บริษัทนี้ เขาชื่อนี้ให้เท่านี้
ถ้าไม่จ่ายเงินไม่เกี่ยวข้องนะ ไปคิดเอาเอง บริษัทนี้พี่รู้จัก เจ้าของเป็นคนดี แต่เรื่องเงินหรือนิสัยลึกๆแล้วไม่รู้นะ ถ้าทำก็ทำ น้องไปหาวิธีการที่จะทำให้รัด
กุมไม่โดนโกงกันเอาเอง ผมจะพูดไปตรงๆทุกครั้งทุกงานทุกวันนี้ บอกตรงๆญาติพี่น้องยังต้องระวัง คือผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราเลวเพราะความจำเป็น
ไม่ใช่เฉพาะวงการนี้ทุกวงการเป็นหมด คนดีอาจกลายเป็นคนไม่ดีได้ถ้าเขาจำเป็น  เคสนี้เกิดมาหลายครั้งหลายหนและก็มีเด็กๆหลงเข้าวังวนมาตลอด
เห็นแล้วสงสาร คือเตือนไปพูดไปก็หาว่าเราอิจฉา (ที่จริงน่าจะจัดคอลัมน์ข้อระวังในการรับงานก้ดีนะ )ในอดีตบริษัทโกงพวกนี้เยอะมากๆๆๆๆ และที่ยัง
อยู่ในปัจจุบันเดินลอยไปลอยมาก็เยอะ ทำอะไรไม่ได้ เพราะอะไรเพราะคุณฟ้องก็ฟ้องไป ขึ้นศาล10 หน คุณมีเงินจ้างทนายไม๊ มีเวลาไปขึ้นศาลไม๊ ทุกเดือน พอถึงเวลาขึ้นศาล 2 ปีผ่านไป ทางอีเว้นท์ยอมรับผิด แต่ไม่มีเงินก้อนขอผัดผ่อน ศาลอนุญาต ถึงเวลาไม่จ่ายอีก เหนื่อยไม๊ ทำทำไม ข้อระวังที่อยาก
เตือนคือ สมมติคุณไปได้งานนี้มา ถามตัวเองว่าอยากทำไม๊ ถ้าอยากและเกิดไม่ได้เงินล่ะ ( ลูกน้องผมคนโรยสายนอนหลับ ลูกค้าอ้างว่าเห็นเด็กคุณหลับ
ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่จ่ายเงิน ) ขอก่อน 70 % นี่แหละคือต้นทุนล่ะ ประหยัดหน่อยอาจะพอเหลือ ถ้าถูกโกง แต่ถ้าเจอลูกค้าดีก็ได้ครบโอเคโชคดีไป แต่ถ้าเกิดเจอเลวก็คิดว่าทำบุญไป คิดค่นี้แหละอย่าเครียดอยู่ได้ ...คือยังไงแหละ จุดอ่อนของพวกคนทำงานอย่างเราน่ะมันศิลปิน ฉนั้น จะไม่คิด
ไกลถึงเรื่องพวกนี้ ทางที่ดีควรที่จะมีคู่คิด หรือให้ผู้หญิงทำ เป็นคนรับงาน คุยงาน อย่าให้ลูกค้าชนเราโดยตรง เผื่อขาดเหลือดูแล้วไม่ชอบกลก็บอกเลิกไม่มีเวลาได้ แต่ถ้าเรารับงานเองบางทีรับปากไปแล้วพูดไม่ออกเหมือนกัน .. ( จากเคสขึ้นศาลที่เล่า ณ ปัจจุบัน ปรดิวเซอร์คนรับงานเป็นหนี้โปรดัคชั่นทั่วๆไป ประมาณ1 ล้านบาท ยังไม่จ่าย บริษัทรับช่วงต่อก็เข้าใจสงสาร แต่ก็บอกเสียงอ่อยๆว่า และเขาผิดด้วยเหรอคุณรับงานคุณต้องระวังเองซิ
ฝ่ายทีมงานคนอื่นๆก็ ขายบ้าน ขายรถใช้หนี้ไปเท่าที่จะทำได้ นี่คืือเรื่องจริงๆที่น้องๆบ่นว่าไม่มีงาน มีงานแต่เงินน้อย บอกเลยว่าคุณนั่นแหละโชคดีที่สุด
คุณไม่มีงานไม่มีเงิน แต่คุณไม่มีหนี้นะ แต่พวกเขาเหล่านั้น  ทำงานมาตลอด 2 ปี ไม่ได้เงินเดือนแต่แถมเป็นหนี้กันอีกคนหลายแสนบาท เพียงเพราะอะไร
เพราะเป็นคนทำงานไงล่ะ รักที่จะทำ โดยไม่คิดถึงสิ่งอื่นใด มีความสุขที่ได้สร้างสิ่งดีๆอันสวยงามให้กับโลกใบนี้ แต่สุดท้าย จุดจบที่ยังไม่จบก็คือความจริง
..อย่าบอกนะว่าเป็นได้ไง ทำไมถึงยอมเขาได้ขนาดนี้โง่เหรอ ขอเล่าคร่าวๆนิด คือถ้าคุณทำงานรับจ้างจะมีสัญญาว่า คุณทำรายการทีวี 1 เดือน 4 รายการ
คุณคิดลูกค้าสมมตินะ 5หมื่นต่อตอน เดือนละ 1 แสนแล้วไง ทำไปแรกๆลูกค้าจ่าย ต่อไปลูกค้าบอกไม่อยู่ไปต่างประเทศ คนเซ็นต์เช็คไม่อยู่ ระยะจ่ายเงิน
เป็น 2 เดือน พอทำไปบอกคนเซ็นต์เช็คแม่ป่วยไม่อยู่ครบให้เงินไม่ได้ ยืดไปเป็น 3 เดือน ถามว่า ณ ตอนนั้น คุณจะทำไง เลิกทำเหรอ รายการออนแอร์อยู่
เลิกก็เหมือนไม่รับผิดชอบ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทีนี้ต่างคนต่างแก้ปัญหาไป คือหมุนเงินกันไป อย่างที่บอกคนทำงานพวกเราเงินไม่ได้เยอะหรอก เพราะ
ต้องใช้คนเยอะ สุดท้ายทุกคนก็เอารถ เอาบ้านจำนอง กู้หนี้ยืมคนอื่นก่อน เพื่อเอาเงินมาทำ รอเวลาลูกค้ากลับจากต่างประเทศแล้วจะจ่ายได้เงินก้อน พอถึง
เวลาเงินเยอะ ลูกค้าพูดคำเดียว ไม่มีเงินจ่าย ทำไง ลูกค้าขายโฆษณาเข้ากระเป๋าไปแล้ว บอกจะยกเลิกรายการนี้ไปทำรายการใหม่พร้อมทีมงานใหม่
( เหยื่อใหม่ ) กลับมาเรื่องมาตราฐานการว่าจ้าง ผมว่าใครอยากตั้งราคาแบบไหน ทำไปเถอะ ลูกค้าคนละกลุ่ม กลุ่มที่แพงวันนี้ก็ยังอยู่ได้ไม่กระเทือน
กลุ่มใหม่เหนื่อยหน่อย แต่ถ้ามีฝีมือรับรองหางานได้ไม่ยาก จริงๆวงการนี้ขาดคนเก่งครับ บอกได้เลย คนเก่ง ในที่นี้คือลูกค้าเป็นคนบอกนะครับ ไม่ใช่ตัว
เองบอกหรือคนสนิทบอก สมมติคุณเป็นช่างภาพที่เก่งสุดๆ เดินเข้าไปเลยบริษัทดังๆ บอกเขาเลยว่าคุณเก่งสุดยอดเพราะงี้ๆๆๆ รับรองเขารับครับ...
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 3 คะแนน ซ่อน
job4922 เงิน +1 2010-12-20 ถูกใจ แต่ลายตา ^^
ake เงิน +1 2010-12-19 -
sticky เงิน +1 2010-12-19 จริงเลยครับ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
72
เงิน
668
ความดี
1311
เครดิต
1634
จิตพิสัย
1034
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
เห็นด้วยกับคุณเอกครับ

แต่เนื่องจากยังไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ

ผมว่าห้องนี้จัดทำ สัมมนาเลยครับ

โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ในวงการวีดีโอ เคยได้ยินได้ฟังได้พบประสบเรื่องราวที่หลาย ๆ ท่านเล่ามาเหมือนกัน ต้องระวังอย่างมากถึงมากที่สุดเลยทีเดียว ถ้าจับลูกค้าประจำได้ แล้วทุกอย่าง In-House ได้ทั้งหมด อันนี้จะดีเลิศประเสริฐศรีมาก กำไรก็จะเยอะมากกกกแบบคนนอกคาดไม่ถึง (แบบงานห้าหมื่นทุนแค่หมื่นห้า งานแสนนึงทุนไม่ถึงสามหมื่น) โดยเฉพาะถ้าคุม Post ทำ Post เองได้ทั้งหมด ...

ส่วนราคาถ่าย ขั้นต่ำคิวละ 2,500-3,000 เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว แล้วไม่ได้ใช้กล้องตัวละหกเจ็ดหมื่นนะ เป็นกล้องวีดีโอตัวละสองแสนห้า คุยดี ๆ ขาประจำกัน แถมไวร์เลส 1 ตัว แถมไฟ 500watt 1 ชุด อีกต่างหาก ...

ค่าจ้าง 2,500-3,000 ถามว่าอยู่ได้ไหม ผมว่าอยู่ได้ ยิ่งถ้าคุณโปรสักหน่อย มีประสบการณ์ รู้จักถ่าย รู้จักตัด คิดเร็ว-ตัดสินใจเร็ว (ไม่มัวมานั่งงมโน่นงมนี่ลองผิดลองถูกแบบมือสมัครเล่น) มันก็ใช้เวลาน้อย แต่งานออกมาใช่ ... ผมว่าเดือน ๆ นึงรับเกินแสนเอาง่าย ๆ ...
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
33
เงิน
451
ความดี
279
เครดิต
243
จิตพิสัย
309
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
งานตามตกลงลูกค้าครับ เค้าไม่ไหว ก็เชิญเค้าไปทำที่อื่น ต้องแฟร์ๆทั้ง 2 ฝ่ายถึงจะดี
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
รวยน่่คงไม่รวยครับ ดังอุปสรรคและสาเหตุมากมายซับซ้อนที่พี่ p0p-it กล่าวไว้ด้านบน มันใช่เลย
คนมีไฟแต่ไร้ประสบการณ์ตบเท้าเดินเข้ามาเป็นเหยื่อให้พวกนั้นหลอกใช้อยู่ทุกปีๆอย่างไม่เคยขาด

แต่ถ้าทำดีๆ รู้จักช่องทางและมีการขายที่ดี ก็ไปถึงระดับที่เรียกว่า"รายได้ดี" เรียกอย่างนี้น่าจะถูกต้องกว่า

เรื่องการตั้งราคาสำหรับมือใหม่ผมมีไอเดียว่าเสนอราคาถูกๆได้ แต่คุณต้องกล้าพอมีสปิริทพอที่จะบอกลูกค้าว่า
"พี่ครับ ผมคิดราคานี้เพราะพี่เป็นลูกค้าคนแรกนะครับ แต่งานต่อๆไปหรือถ้าเมื่อผมมีประสบการณ์มากขึ้นผมจะต้องคิดราคามากกว่านี้ เพราะ........."

แต่ส่วนตัวผมเองผมคิดงานแรกก็ 5000 เลย เพราะผมมีประสบการณ์ทำรายการทีวีอยู่ก่อนแล้ว และปกติค่าตัดต่อรายการเทปนึงก็ 4000-5000 แล้ว
เทียบกับงานอื่นๆที่ต้องทำมากกว่าตัดต่อด้วยก็ถือว่าถูกกว่ารายการทีวีอีก ผมจึงใช้ราคาตัดต่อปกติเป็นตัวอ้างอิงและอธิบายกับลูกค้าได้ครับ

ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
150
เงิน
5956
ความดี
4483
เครดิต
4394
จิตพิสัย
5689
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
สู้สู้ครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
255
เงิน
5207
ความดี
5642
เครดิต
5015
จิตพิสัย
4172
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
กระทู้ดีมีสาระครับ

บางงานผมก็ตั้งราคาไม่ถูกเหมือนกัน

ตอนนี้ที่ทำอยู่ คือ

ลูกค้าเก่าผมก็จะได้ราคาที่ถูกหน่อย เพราะเมื่อก่อน ผมยังไม่เก่งเท่าที่ควร

แต่จนถึงตอนนี้ลูกค้าเก่าที่ผมเคยทำงานด้วยทั้งหมด ก็ยังอยู่ครับ มีงานน้อยบ้าง มากบ้าง แล้วแต่ช่วงเวลา

และส่วนลูกค้าใหม่ๆที่เข้ามาตอนนี้ ผมจะตั้งราคาให้สูงไว้ มาตรฐานไว้

เพราะไม่อยากให้ราคามันต่ำ เกินไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายมันก็อยู่ที่การตกลงกันมากกว่าครับ ว่าแบบนี้ แบบนั้น วิน วิน ทั้งสองฝ่ายก็จบครับ

ผมหวังงานระยะยาวมากกว่าครับ แบบถ้าลูกค้าได้ร่วมงานกับผมแล้ว จะต้องมีงานต่อไป ต่อไป และต่อไป

แบบนี้จะทำให้เรามีงานต่อเนื่อง ไม่รวย แต่บอกได้เลยครับ ว่าไม่จนเหมือนกัน
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-19
ถามว่าชอบมั้ยผมก็ชอบนะ แต่เอาอะไรวัดล่ะครับ ฝีมือและไลน์ตัดหรือวิธีการเล่า หรือ อื่นๆของแต่ละคนไม่เท่ากัน วิธีการดึงลูกค้าไว้ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จริงอยู่ทุกวันนี้มีการตัดราคาจากคนหน้าใหม่ที่หาญจะบินโดยไร้ประสบการณ์ หรือทำเอามันส์แต่ไร้ความรับผิดชอบ แต่ในทางกลับกันก็มีคนหาเลี้ยงตัวเองเป้นกิจจะเช่นกันซึ่งผมคือหนึ่งในนั้น เรทราคาของคนแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะประสบการณ์คนแต่ละคนไม่เท่ากัน สมมุติว่าวันหนึ่งมีลูกค้าโทรหาผมถามราคางาน 30 นาที พอผมบอกราคากลางไป แล้วเขาไปตกลงอีกเจ้าซึ่งรู้ราคากลางอยู่แต่ตัดราคาลงอีก ผมก็แย่เหมือนกัน หรือผมมีประสบการณ์ตัดมา 6 ปี แต่ราคาเดียวกับคนเพิ่งจบที่หาญบิน อันนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน ผมว่าบางทีเป็นแบบเราบอกราคาที่พอใจ ลูกค้าพอใจและรับได้จากฝีมือเรา วินวินทั้งคู่มันก็โออยุ่นะ ส่วนแนวทางนั้นมันก็เหมือนเด็กเพิ่งหัดเดินล่ะครับ มันต้องหกล้มก่อนถึงจะวิ่งได้ แต่เราแค่คอยปรึกษาเรื่องการหลอกลวงจะดีกว่ารึเปล่า
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
433
เงิน
9297
ความดี
10845
เครดิต
12065
จิตพิสัย
11004
จังหวัด
ปทุมธานี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-20
กระทู้มีสาระอย่างแรง  ผมรู้สึกใจแป๊วววววจัง

ผมพูดตรงๆ เลยนะ คือผมอยากรวยมาก แต่พอมาเจอกระทู้นี้เข้่าไป จุกเลยครับ  จะเอาไงดีเนี่ย ผมดันมาชอบและหลงไหลทางด้านนี้มาก แต่ก็ต้องเลือกอนาคตไว้ดีกว่าเพราะผมมีแม่อยุ่คนเดียว สงสัยได้หาอย่างอื่นทำแน่เลย เฮออ เด๋วคิดดูอีกทีแล้วกัน
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้