ปรึกษาการทำห้องบันทึกเสียงขนาดเล็ก / ข้อมูลไมค์ Superlux HO8

ขอบคุณครับพี่  ในส่วนของลำโพงของผมเป็นลำโพงกีต้าครับ  ผมควรควรจะซื้อลำโพงประมาณไหนดีครับที่ราคาพอดีๆ  และไม่ต้องใช้ซื้อเครื่องแอมป์อีกตัวหนึ่ง
ฟองน้ำรังไข่ไม่รู้ว่าแถวเชียงใหม่จะมีขายหรือเปล่าแต่จะพยายามหาครับ

ขอถามสักนิดครับ ...

- สรุปว่าขนาดห้องนี่เท่าไหร่กันแน่ครับ ? โพสต์ #5 บอก 4 ตารางเมตร ...

อ้างอิง

ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำเรื่องห้องบันทึกเสียงครับพี่   แต่ผมจะทำในห้องประมาณ  4ตรม.เป็นห้องนอนเก่าเอาไว้ใช้อัดเสียงทำสคลิ ป  ร้องคาราโอเกะ     และเล่นกีต้าโฟล์คซองธรรมดา

แต่ภาพในภาพที่วาดมาในโพสต์ #35 นี่มัน 4 x 4 = 16 ตารางเมตร ...

อ้างอิง

ผังห้องอัดครับ

มันต่างกันถึง 4 เท่าเชียวนะครับ แล้วรบกวนขอความสูงเพิ่มด้วยครับ ลักษณะผนังราบเรียบขนาดไปกับพื้น หรือ มีลาดเอียง หรือ มีคานอะไรมาคั่นหรือเปล่า ?

- ผังห้องที่วาดมา ขอเหตุผล-ความจำเป็น-ข้อจำกัด อะไรต่าง ๆ ที่ำตัดสินใจวางแบบนั้นด้วยครับ ... สเกลนี้กลายเป็นว่าไม่ใช่ Project Studio เสียแล้ว มันกลายเป็น Bedroom Studio ไปแล้วล่ะครับ ...



อยากให้ลองกลับไปอ่านข้อมูลในหน้าแรกให้เข้าใจก่อน รวมทั้งใช้ความสังเกตุภาพที่แนบมาให้ละเอียด ลอง google ดูตัวอย่างห้องให้มากเข้าไว้ ให้เข้าใจเสียก่อน อย่าเพิ่งไปรีบวิ่งหาซื้อของ โดยไม่รู้ว่ามันให้ผลอย่างไร จะเสียเวลาเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ...

ไว้มีเวลาจะมาไล่รายละเอียดเกี่ยวกับการบันทึกเสียงในห้องให้ใหม่ตั้งแต่ต้นเลย ดูเหมือนจะเริ่มไปผิดทางแล้ว ...

ขอบคุณครับพี่ผมจะเลือกใช้ฟองน้ำรังไขหรือผ้าม่านเอาอย่างใดอย่างหนึ่งใช่มั้ยครับ
ถ้ามีโอกาศพี่มาเที่ยวเชียงใหม่แวะมาเยี่ยมเยียนกันนะครับ

อ้างอิง

ขอบคุณครับพี่ผมจะเลือกใช้ฟองน้ำรังไขหรือผ้าม่านเอาอย่างใดอย่างหนึ่งใช่ มั้ยครับ

ไม่ใช่ครับ
เริ่มเล่นตลกอะไรเปล่าเนี่ย ชักไม่มั่นใจ ไล่อ่านหน้าแรก ๆ ดูใหม่หรือยัง ผมเขียนและให้เหตุผลไว้ชัดเจนมาก ๆ เลยนะ

โพสต์ #7

อ้างอิง

2. เรื่องการจัดการผนัง ... ความ live ของเสียง มันมาจาก reverb แล้ว reverb มันมาจากการสะท้อนของผนัง, พื้น, เพดาน เพราะฉะนั้นการนำวัสดุ หรือ อะไรต่าง ๆ ไปกั้นไว้ที่ผนัง มันจะทำให้เสียงที่ได้แตกต่างกันออกไป พื้นผนังเพียว ๆ มันจะสะท้อนมาก (เสียงจะ live มาก), ถ้าเอาวัสดุหนานุ่มลักษณะคล้าย Acoustic Foam เสียงมันจะถูกดูดซับไป ผลคือ ความ live มันจะน้อยลง แล้วมันจะ dead ขึ้น ความหนาของวัสดุแปลผกผันกับความถี่ที่ถูกดูดซับ ถ้าบางหน่อย เสียงความถี่สูง ๆ จะถูกดูดซับไป ผลคือเสียงมันจะทึบ ๆ ไม่ใส วัสดุยิ่งหนายิ่งดูดซับความถี่ที่ต่ำลงมา แล้วความถี่ต่ำนี่แหล่ะที่เป็นปัญหาต่อการบันทึกเสียงอย่างมาก เพราะมันมักจะมากเกินไป อันนี้ต้องศึกษาปัจจัยเกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้หนัก ...

โพสต์ #21

อ้างอิง

จะลองดูก็ได้ แต่ถ้าถามผม ก็อย่าเลยครับ ไม่ได้ผลหรอก ผ้าม่าน ลังไข่อะไร ก็อย่าได้ไปทำ เสียของ ... ลองตีไม้เป็นตารางล๊อก ๆ ไปวางไว้ที่ผนังดูครับ ช่วยให้เวลาเสียงกระทบผนังแล้วจะฟุ้งไร้ทิศทาง น่าจะช่วยเรื่องการสะท้อน การหักล้าง และให้ผลพิเศษคือ ช่วยแก้เรื่องห้องเล็กด้วย เพราะเสียงที่ได้จะเหมือนกับบันทึกในห้องที่กว้างขึ้น ...

Acoustic Foam ที่เขาใช้เพื่อหวังผลในการดูดซับ มีความหนาตั้งแต่ 1 นิ้ว ไปจนถึง 4-5 นิ้ว ยิ่งหากเป็นการดูดซับที่ความถี่ต่ำที่เรียกว่า Bass Trap  ใช้กันหนาถึง 12 นิ้ว ...
แล้วรังไข่ กับ ผ้าม่าน หรือ แม้แต่พรมที่คุณจะเอามาใช้ มันหนากี่มิลกันครับ ...

แล้วไม่ใช่แค่ความหนาเท่านั้น ที่สำคัญกว่า คือความหนาแน่นของตัววัสดุ ฟองน้ำถูก ๆ รูพรุน เบาหยอง จิ้มแล้วยุบฮวบ แบบนั้นก็เปล่าประโยชน์เหมือนกัน ... เอามาติดแล้วมันอาจจะให้ผลในแง่จิตใจ แต่มันหวังผลไม่ได้ในแง่ของการดูดซับ ...

อ่านแล้วไม่ต้องเชื่อ แต่ให้ลอง search ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตให้ทั่ว เพื่อพิสูจน์ให้ประจักษ์ด้วยตัวเองว่า Sound Engineer ทั่วโลก เขาได้ทดลอง ทดสอบ หรือ พูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างไร ...

พี่ผมกำลังจัดหาฟองน้ำกับพรมอยู่ครับ

วัดจริงๆๆ3X3ตารางเมตรครับ

ความสูงพื้นถึงเพดาน  3 เมตรครับ

ขอบคุญครับพี่เดี๋ยวผมจะอ่านให้ละเอียดอีกทีครับ  ในส่วนของห้องที่จัดอย่างนั้นเพราะว่าไม่มีที่เก็บเตียงกับตู้เสื้อผ้าเลยอัดกันอยู่ในห้องนั้นและต้องขอโทษด้วยครับที่ให้ข้อมูลขนาดผิดไปครับไปวัดห้องมาใหม่แล้วครับ  กว้าง  3  เมตร  ยาว  3  เมตร  สูง 3  เมตร  กำลังจัดแจงใหม่ครับภายในห้องแล้วผมจะเขียนมาให้พี่ดูใหม่นะครับ

พูดซะขนาดนี้ก็ยังจะยืนยัน งั้นตามสะดวกครับ จะฟองน้ำหรือพรมก็ว่ากันไป ปูมันให้เต็มเลย ทั้งพื้น ทั้งผนัง ...

ไม่ต้องเขียนมาให้ดูก็ได้ครับ แบบนั้นแหล่ะใช้ได้เลย ...

ได้รับขนาดของห้องไปพิจารณาแล้วหรือยังครับพี่ช่วงนี้ผมก้อลองอัดไปเรื่อยๆๆครับสนุกดีไม่มีเวลาไปทำอย่าอื่นเลยครับ

ได้รับขนาดของห้องไปพิจารณาแล้วหรือยังครับพี่ช่วงนี้ผมก้อลองอัดไปเรื่อยๆๆครับสนุกดีใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ครับ

ยังไม่ได้ทำเลยพี่งานเยอะมาก

ใจเย็นครับอย่าเพิ่งงอนกันไป ขออนุญาติอวดห้องทำงานของผมบ้างละกันนะ ต้องออกตัวว่าไม่ได้ถูกต้องตามหลักการอะไร

 

ไม่มีทฤษฎีอะไรรองรับ ไม่ใช้อุปกรณ์อะคูสติกที่พิเศษอะไร ไม่ได้ออกแบบโดยวิศวกรจากที่ไหน ซื้อพวกฉนวนไมโครไฟเบอร์มาบุผนังด้านใน แล้วก้สั่งยิบซั่มบอร์ดแบบรู ๆ จากโรงงานมา จากนั้นก็ไปจ้างช่างทำฝ้าลอยแถวบ้านซึ่งก็ไม่ได้เป็นช่างทำห้องอัดชื่อดัง ทำแต่ผนังทำฝ้าเพดานบ้านๆ ธรรมดา ๆ สีห้องก็นั่งทากันเอง เสร็จแล้วก็นั่งไลน์สาย เดินระบบทั้งห้องอยู่ประมาณ สองสามวัน แค่นี้เองครับ ขนาดห้องผมก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าห้องของเจ้าของกระทู้มากมายอะไร ก็ทำงานออนแอร์ ทำสปอร์ตวิทยุ ทำเพลงประกอบอะไรโน่นนี่เป็นสิบปีแล้วครับ เวลาอัดเสียงผมก็อัดในห้องนี้แหละ ใช้คอนเดนเซอร์ไมค์ด้วยซ้ำ ผลที่ได้เสียงก็ไม่ได้ต่างจากไปอัดที่ห้องอัดข้างนอกเลยครับ

ซึ่งจริงๆห้องผมก็มีข้อจำกัด ด้วยระยะฉายของโปรเจ็คเตอร์ ตำแหน่งลำโพง ตู้ก็มีเหมือนกันนะครับ ของอย่างเยอะมาก แล้วยังต้องมาปวดหัวกับการไลน์สาย เพราะตำแหน่งอุปกรณ์กับการเชื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ มีผลหลาย ๆ เรื่อง  จะบอกว่าห้องทุก ๆ ที่มันก็มีข้อจำกัดหมดแหละ แต่เราต้องเข้าใจข้อจำกัดและแก้ปัญหามันให้ได้ อย่าให้เตียงกับตู้เป็นข้อจำกัด กระทู้นี้มีคนให้ข้อมูลค่อนข้างลึกมากและมีประโยชน์ เพียงแต่เจ้าของกระทู้ยังไม่เข้าใจถึงหลักการทำงานและความสำคัญในส่วนต่าง ๆ ด้านเสียง มันก็เลยดูงง

ฉะนั้นต้องใจเย็น ๆ หลายปีก่อนผมก็เคยทำงานตัดต่อ อัดเสียงหน้าเตียงอยู่เหมือนกันครับ ทำห้องอัดเสียงในห้องคอนโดเล็ก ๆ ก็เคย ลองมาหลายอย่างแล้วหละ นั่งทดลองเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่อยุ่เป็นร้อยเป็นพันหนในระยะเวลาหลาย ๆ ปี ของแบบนี้มันต้องทดลองด้วยตัวเอง เช่นวางลำโพงตำแหน่งนี้เสียงเป็นยังไง วางอีกตำแหน่งเสียงเป็นยังไง อัดเสียงมุมนี้ของห้องเสียงเป็นยังไง เปลี่ยนมุมเสียงเปลี่ยนไปแค่ไหน หรือแม่แต่ใช้สายเคเบิ้ลคนละยี่ห้อเสียงยังเปลี่ยนเลย

ทั้งนี้ทั้งนั้น เริ่มต้นจาก ear training ก่อนดีกว่ามั้ย หัดที่จะฟังแล้วให้ประสาทหูแยกแยะเสียงให้ออกก่อนว่า อันไหนยังไง ฝึกที่จะฟังแล้วจะเข้าใจเองว่าที่หลาย ๆ ท่านเค้าให้ข้อมูลนั้นมันสำคัญอย่างไร จะเห็นปัญหาเองครับ และเห็นความต่างด้วยตัวเอง

อย่าใจร้อนโพสต์กระทู้ปั๊บ พอมีคนตอบแล้วจะได้ห้องอัดเสียงที่สมบูรณ์แบบ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นครับ

อ้างอิง

เริ่มต้นจาก ear training ก่อนดีกว่ามั้ย หัดที่จะฟังแล้วให้ประสาทหูแยกแยะเสียงให้ออกก่อนว่า อันไหนยังไง

คำแนะนำตรงนี้แหล่ะครับที่เป็นประโยชน์มาก เป็นส่วนสำคัญกับงานเสียงทีเดียว นอกจาก ear training แล้ว ลองหางาน master ดี ๆ มาฟัง เวลาทำงานจะได้มี reference อยู่ในหัว ...

คุณ tkratt ยังไงเดี๋ยวถ้าเปิดกระทู้เกี่ยวกับเรื่องห้องอัดเสียงโดยเฉพาะ จะรบกวนขอเชิญมาร่วมด้วยครับ ในนี้เห็นมีคนทำงานด้านซาวด์หลาย ๆ คน จะเชิญมาร่วมด้วยช่วยกันเลย คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับสมาชิกท่านอื่น ๆ อย่างมากทีเดียว ...

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 58 ต้นฉบับโพสโดย vfspostwork เมื่อ 2011-10-02 09:11  :

คุณ tkratt ยังไงเดี๋ยวถ้าเปิดกระทู้เกี่ยวกับเรื่องห้องอัดเสียงโดยเฉพาะ จะรบกวนขอเชิญมาร่วมด้วยครับ ในนี้เห็นมีคนทำงานด้านซาวด์หลาย ๆ คน จะเชิญมาร่วมด้วยช่วยกันเลย คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับสมาชิกท่านอื่น ๆ อย่างมากทีเดียว ...

ติดตามอย่างใกล้ชิดครับ.......ผมทำแบบบ้านๆ ...ไม่มีซับอะไรในห้องตอนนี้ แต่ก็ลุยมาหลายปีแล้ว   มีแต่ว่าจะทำห้อง ก็ไม่ได้ลงมือซักที ติดที่งบ...แต่ก็ต้องทำงานเท่าที่มีประทังชีวิตไปก่อนครับ   

(ขอเก็บความรู้ ทั้งแบบโปร และ แบบ บ้านๆ ประหยัดๆ ไปด้วยกันนะครับ โปรซะเลยก็สู้ไม่ไหวครับ  )