สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 30790เข้าชม
  • 2ตอบกลับ

Genre ของภาพยนตร์

โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร


วันนี้เราจะมาดูเรื่อง Genre ของหนังกันครับ


เขาว่ากันว่าคำๆนี้เป็นภาษาฝรั่งเศษ อ่านออกเสียงว่า ชอง(ฌอง) แต่บ้านเราก็เรียกกันอย่างที่ตามันสะกดได้ครับ หลายคนในบ้านเราใช้คำว่า เจน


Genre เราเรียกเป็นภาษาไทยว่าแนวของหนัง เช่น ดรามา โรแมนติก แอคชั่น ไซไฟ หรือ ซัสเพนส์ ทริลเลอร์ ต่างๆเหล่านี้

การวางแนวของหนัง ถือเป็นการตีกรอบของหนังก่อนการเขียนบท ซึ่งในแง่ความคิดสร้างสรรค์แล้วอาจจะไม่มีผลกับตัวคนเขียนบทเท่าไหร่ แต่สำหรับนายทุนแล้ว แนวของหนังเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ 
เพราะว่ามันเป็นคำถามแรกๆที่เราจะถูกนายทุนถาม มันเป็นภาพแรกๆที่คนดูจะเห็น มันเป็น มันคือกลไกในการตั้งความหวังและการเลือกที่จะดูหนังของผู้บริโภคครับ เพราะเป็นภาวะในการตัดสินใจสร้างหนังเรื่องนั้นของนายทุนด้วย 

แล้วแนวของหนังมีอะไรบ้าง


ถ้าว่ากันตามแนวคลาสสิคที่มีมาแต่โบร่ำโบราณจะมีประมาณนี้ครับ


1. แนวชีวิต(Drama) หรือหนังชีวิตครับ หนังที่ว่าด้วยเรื่องครอบครัว กำลังใจในการดำเนินชีวิตต่าง คือหนังที่อยู่ในกลุ่มนี้ เป็นแนวหนังที่ค่อนข้างจะดูธรรมดา ไม่หวือหวา แต่เขียนบทยากมาก และกำลังในการเรียกคนดูต่ำ แต่ถ้าทำถึง จะมีกำลังในการเรียกเงินสูง เพราะว่าหนังแนวนี้จะง่ายต่อการเข้าถึง

2.แนวตลก(Comedy) เราเรียกกันรวมๆว่าแนวตลก แทบจะเป็นหนึ่งในแนวถนัดของคนสร้างหนังไทย และเป็นหนังที่ถูกจริตของคนดูหนังในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แต่จริงๆแล้วหนังแนวตลกก็จะถูกแบ่งออกไปอีกหลายแนว เช่น ตลกล้อเลียน ตลกเสียดสี ตลกร้าย ตลกเจ็บตัว และถ้าในเมืองไทยก็แถมตลกคาเฟ่ให้อีกแนวนึงครับ

3.แนวบู๊/ต่อสู้ (Action) อันนี้เชื่อว่าเป็นแนวที่ถูกปากใครหลายๆคน เป็นแนวที่เรียกว่าการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาทั้งหมดทั้งปวง ที่แนวนี้ได้รับความนิยมก็เพราะว่า มันเป็นสิ่งที่ตอบสนองสันดานดิบภายใน เพราะในชีวิตจริงเราทำไม่ได้ ขอดูในหนังเอาก็แล้วกัน

4.แนวรัก (Romantic) หนังโรแมนติกเป็นหนังที่ว่าด้วยความรักแบบคนหนุ่มสาว ย้ำว่าแบบคนหนุ่มสาวนะครับ แต่ไม่ใช่ของคนหนุ่มสาวอย่างเดียว อาจจะเกิดขึ้นกับคนแก่หรือเด็กก็ได้ เป็นอีกแนวที่ถ้าทำดีๆคนดูมักจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี

5.แนวระทึกขวัญ (Thriller) นึกถึงหนังฆาตกรโรคจิตไล่ฆ่าคน หรือหนังที่เดินเรื่องแบบ ให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้อง นี่คือแนวระทึกขวัญ

6.แนวสืบสวนสอบสวน (Suspense) นี่คือหนังที่ว่าด้วยการสืบสวน หรือหนังที่มีปมปริศนาคาใจ ที่รอการเฉลย เป็นหนังที่มีจุดหักมุมที่คนดูคาดไม่ถึง เป็นแนวที่คนให้การต้อนรับหรือไม่จะอยู่ที่กึ๋นของบทล้วนๆเลยครับ

7.แนวสยองขวัญ (Horror) มักจะเป็นหนังผี หนังที่เน้นความน่าสยดสยอง ตั้งแต่บรรยากาศไปจนถึงเรื่องราว คนดูและคนทำมักจะชอบแนวนี้ เพราะเป็นแนวที่ลงทุนต่ำๆได้ แต่ได้ผลสูง เพราะว่าความเชื่อเรื่องผีนี้จะอยู่ในใจของคนทุกชาติทุกภาษาอยู่แล้ว


สามแนว ( 5 6 7 )นี้แรกเริ่มมันอยู่แนวเดียวกันครับ แต่ไม่นานก็เกิดการแบ่งแยกย่อยออกมา เพราะโครงสร้างต่างกันค่อนข้างชัดเจนครับ


8. แนววิทยาศาสตร์ (Sci-fi) อันนี้เป็นแนวที่ว่าด้วยจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ ท่องอวกาศ หุ่นยนต์ การเดินทางข้ามการเวลา อะไรก็ตามที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์มักจะอยู่ในกลุ่มนี้หมด เวลาไปขายนี่ต้องบอกนายทุนเลยครับ ว่างานเราเป็นแนวนี้ เพราะว่านายทุนมีความเชื่อว่า งานหนังไซไฟถ้าสร้างให้สมจริงมันมักจะต้องแพง ให้เขารู้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ ว่าเรากำลังจะสร้างยานอวกาศ


9. แนวจินตนาการ (Fantasy) อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ว่าด้วยโลกในจินตนาการ การสร้างโลกใหม่ พ่อมด แม่มด เจ้าชาย เจ้าหญิง ลอร์ดออฟเดอะริง อะไรก็ว่้าไป และแน่นอนครับ เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตาซีแล้ว ทุกอย่างมักจะแพง และในบางยุคที่คนต้องการความจริงจังในชีวิตหนังแนวนี้มักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่ถ้าทำดีๆทีไร ทำเงินเป็นกอบเป็นกำทุกทีสิ

ทั้งหมดนี้คือแนวคลาสสิคครับ เป็นสูตรของGenre ที่มีมาแต่โบร่ำโบราณ ผมเรียกว่าเป็นแนวแบบหลัก คือตั้งไว้เป็นหลัก เป็นส่วนผสมใหญ่ของหนังซึ่งรอสัดส่วนอื่นเข้ามาผสมให้รสชาติของมันกลมกล่อมขึ้นครับ

แล้วในปัจจุบัน แนวหนังมันเป็นอย่างไรกันบ้าง

แนวหนังในปัจจุบันเราเรียกได้ว่าเป็นเวลาแห่งการผสมผสานเพื่อให้รสชาติของหนังกลมกล่อมยิ่งขึ้น อย่างเช่น เราเอาหนังแอคชั่นมาผสมกับคอเมดี้ เราก็จะได้แนวที่เรียกว่า แอคชั่นคอมเมดี้ อย่างเช่นหนังเรื่อง Rush Hour 1 2 3 หรืออีกแนวการผสมผสานเช่น การเอาโรแมนติกมาจับคู่กับคอเมดี้ เป็นแนวที่ทำเงินได้มหาศาลมานักต่อนักแล้ว 

และการแบ่งแนวอีกอย่างในปัจจุบันคือแบ่งตามลักษณะของกลุ่มเป้าหมายแล้วผนวกแนวทางพื้นฐานเข้าไปจับ เช่น หนังเด็ก หนังกีฬา หนังทนาย หนังนักดับเพลิง ต่างๆ 

เท่าที่เห็นครับ ตอนนี้แนวหนังเกิดขึ้นมากมายจนกลายเป็นเรื่องยากที่จะระบุลงไปได้อย่างชัดเจนครับ แต่เห็นความสำคัญของมันมั๊ยครับ ว่าสำคัญตรงไหน มันเป็นกรอบให้เรารู้ เป็นกรอบให้นายทุนรู้ และเป็นกรอบให้ฝ่ายพีอาร์ และที่สำคัญที่สุดครับ เป็นกรอบให้คนดูรู้ว่าตัวเองจะเข้าไปดูอะไร

ส่วนหนังไทยก็มีการแบ่งแนวแบบประหลาด (เป็นการแบ่งจากคนดูครับ ) คือ หนังตลก หนังผี หนังกระเทย และท้ายสุด มาล่าน้องใหม่ หนังเกย์ครับ 

จริงแนวหนังยังมีอีกหลายแบบครับพูดกันอีก 10 ครั้งก็ยังไม่จบ งั้นเอาเป็นว่า ใครจะเขียนบทหนังก็ควรหาคำจำกัดความในส่วนของ Genre หนังของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้ไม่ไปอ้ำอึ้งต่อหน้าคนอื่นเวลาเขาถามครับ 


คราวหน้าเราจะเข้าเรื่อง ฟอร์แมตของบทภาพยนตร์กันแล้วนะครับ ว่ารูปแบบของบทภาพยนตร์ที่เราจะเขียนควรจะเป็นอย่างไร











บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
gotchastudio ความดี +10 2011-11-26 ขอบคุณครับ ^^

บทความที่เกี่ยวข้อง

ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
25
เงิน
843
ความดี
938
เครดิต
859
จิตพิสัย
1267
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เคยสงสัย Thriller  Horror มานานแล้วว่าต่างกันยังไง ตอนนี้ก็กระจ่างแล้วล่ะ ขอบคุณมากครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
451
เงิน
878
ความดี
10007
เครดิต
11895
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ชอบ Romantic Comedy เหมือนกันครับ ดูแล้ว feel good ดี
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้