จากกระทู้
เมื่อไรจะคืนทุน เมื่อไรจะรวย ถ้าไม่ใจรักอยากรู้นักว่าจะทำกันไหม ผมเม้นท์ไปนาน มีน้องใหม่เข้ามาอ่านแล้วให้คะแนนเพิ่ม กลับไปอ่านบทความอีกทีเห็นว่าเขียนฮาร์คอร์มาก
( ตอนนั้นคงเครียดโดนลูกค้ากระนหนำ่ ) ชักไม่สบายใจกลัวน้องใหม่กลัวเกินเหตุ เลยเพิ่มเติมข้อมูล จริงๆไม่น่ากลัวอย่างที่เขียนไว้ เรามีวิธีป้องกันความผิดพลาดในงาน ดังนี้. -
ในกรณีถ้าลูกค้าว่าจ้างให้ผลิตสารคดีบริษัทเพื่อประชาสัมพันธ์ หรืออีเว้นท์ว่าจ้างให้ทำสารดีเพื่อฉายในงานฯ 3 ขั้นตอนที่ทำให้แก้งานน้อยที่สุด ( ไม่เกี่ยวกับการผลิตสารคดีทางฟรีทีวีนะคับ )
1. ถามผู้ว่าจ้่างหรือโปรดิวเซอร์ว่า สารคดีชุดนี้ต้องการแบบเป็นทางการหรือไม่ทางการ ( ระวังคำพูดอย่าถามว่า เอาไปฉายให้ใครดู กลุ่มลูกค้าเป็นใคร เขาจะหาว่าเราไปเสือกงานเขา ระวังๆๆๆ )
จริงๆแล้วก็คือหลักเดียวกับถ่าย MV คือโทนของเรื่อง เพียงแต่เราปรับเปลี่ยนคำพูดให้เหมาะสมสถานการณ์
-ก.
ถ้าเจ้าของงานบอกขอแบบทางการ. ..วิธีการทำงานคือ ..ให้เราถ่ายคนที่จะสัมภาษณ์ตรงโต๊ะทำงานของเขา โดยให้ด้านหลังมีโล่ห์ หรือ รางวัลต่างๆ วางไว้เป็นแบ็คกราวนด์
-ข.
ถ้าเจ้าของงานบอกขอแบบกึ่งทางการ …วิธีการทำงานคือ ..ให้ถ่ายที่ห้องรับแขก ให้นั่งเก้าอี้ยาว ผ่อนคลายเล็กน้อย แล้วมีโล่ห์วางประดับแจกกันดอกไม้ข้างๆบนโต๊ะเล็ก
-ค.
ถ้าเจ้าของงานบอกขอเป็นแบบกันเอง....วิธีการทำงานคือ... ถ่ายด้านล่างในสวน บรรยากาศสบายๆ อาจนั่งที่เก้าอี้ชุดสนามก็ได้ …( ขึ้นอยู่กับลูกค้าเลือก )
2
. มาถึงการตัดต่อ พูดคุยกับลูกค้าว่า ต้องการสารคดีชุดนี้แบบไหน -A
แบบหวือวาตื่นเต้นกระตุ้นคนตลอดเวลาที่ดู แรงด้วยอารมณ์ภาพที่หวือหวาสุด กระหนำ่ทุกเอฟเฟค และความแรงของเพลงเต็มที่เท่าที่ทำได้ ( ส่วนมากจะใช้ในงานอีเว้นท์ )..
-B
ลดอารมณ์ลงครึ่งแค่สนุกไม่ให้หลับ เอเฟคภาพแรงได้ แต่ไม่ทุกช่วง อย่าตัดภาพเร็วมากกลัวคนดูไม่ทัน เพลงก็ไม่เอาจังหวะแรงจนบีบหัวใจคนดู หรือมีได้แต่อย่าใช้เยอะ
-C
อ่อนหวานสบายๆ เหมือนฟังเพลงแจ๊ส เรียบง่ายสบายๆ อารมณ์โรแมนติก เท่ห์ บางเบาสบายเหมือนวันสบาย ( อารมณ์ MV เวดดิ้ง )..
ทีนี้เรามาลองจับคู่ดู ได้ประมาณ 9 แบบ นำไปแปลความหมายกันเองนะคับ อีกอย่างเป็นเคล็ดลับส่วนตัว ผมจะสังเกตุการแต่งตัว และสภาพแวดล้อมในห้องเจ้าของงานด้วยว่า
จริงๆตัวตนเขาเป็นแบบไหน ใช่แบบที่เขาบอกเราหรือไม่ เช่น ชอบแบบฮาร์ดคอร์เพราะไปดูงานอื่นแล้วชอบ แต่ห้องแต่งแบบหวานมาก นั่นแสดงว่า เจ้าของงานบอกให้เราทำงาน
แบบอารมณ์สนุกไม่ใช่ฮาร์คอร์อย่างที่พูด อย่าลืมนะคับ ตัดเร็วเพลงแรงเอฟเฟคทุกช่วง เจ้าของงานดูไม่เป็นจะปวดหัวนะคับ... ( หาเจ้าของงานตัวจริงให้เจอ )…
3.
การตัดต่อจริง ให้ท่องจำประโยคนี้ให้ได้ก่อน.. " ไม่ว่าคุณจะเลือกใส่ภาพอะไรลงไป จะต้องมั่นใจว่า 10 คนที่ดู ต้องโอเคทุกคน แม้มีเพียง 1 ไม่ชอบก็ไม่ได้ เพราะถ้าคนนั้นคือเจ้าของงาน " ฉนั้น ก่อนเลือกภาพใส่ ก่อนทำเอฟเฟค ก่อนเกรดสี คิดให้หนักว่า เราเล่นแรงเกินไปหรือเปล่า ถ้าอยากเล่นเพราะมันดีกว่า ก็ทำลงไปแต่แรงเพียงครึ่งเดียวก่อน อย่าสุดโต่งเพราะลูกค้าอาจ
ไม่เข้าใจอารมณ์ของงาน เอาไว้ไปพรีเซ็นต์ แล้วถ้าลูกค้าชอบก็ค่อยมาทำเพิ่มให้เด่นชัด หรือแรงขึ้น ( ทั้งภาพและเพลง )
สรุป - ดูความต้องการลูกค้าว่า ต้องการแบบทางการหรือไม่ แล้วก็รักษาโทนเรื่องให้ไปด้วยกันทั้งเรื่อง - ก่อนตัดต่อ เดาใจความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง เช่น ผมเป็นเจ้าพ่อเอฟเฟค ต้องการทั้งภาพและเพลงแรงทุกช่วงหรือไม่..ถ้าลูกค้าไม่ชอบก็จะบอกเราเอง.. - ตัดต่อจริง พยายามอย่าเล่นอะไรเกินจนสุดโต่ง รักษากลางๆไว้ ถ้าคอนเซ็ปผ่านแล้วค่อยมาทำเพิ่มให้เดิ่นชัดขึ้น ในขั้นตอนแก้ไขช่วงส่งงาน.. ปิดท้ายด้วยภาษาเฉพาะลูกค้าที่คุณต้องเข้าใจและแปลความหมายกันเอง..( พี่ๆคนไหนมีมากกว่านี้มาแชร์กันก็ดีนะคับ ให้แปลเอาเองบางทีก็แปลไม่ออกเหมือนกัน )..
- ภาพสกปรกไม่เอา หมายความว่า ภาพนั้นมีส่วนมืดมากกว่าสว่าง เช่น ภาพลูกโลกในอวกาศที่มืด เปลี่ยนแบ็คกราวนด์เป็นพื้นเอฟเฟคสีสว่าง
- เพลงล้าสมัย หมายความว่า เพลงแรงไป มีจังหวะเร้าอารมณ์มาก หรือตื่นเต้นเกินไป ให้เปลี่ยนโทนเป็นสนุก ไม่หวือหวา มีเอฟเฟคเพลงได้แต่ไม่มาก
- เสียงไม่มี จริงๆแล้วเสียงในเทปน่ะมี แต่เบาหรือค่อยไป ให้เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น
บทความที่เผมขียนส่วนมาก เน้นหลักปฏิบัติ ถ้าอ่านเข้าใจแล้วอยากให้กลับไปอ่าน หลักทฤษฏีด้วย ( ที่พี่ๆคนอ่ื่นเขียนไว้) จะเข้าใจมากขึ้น เพราะผมก็สรุปจากทฤษฏีนั่นแหละ
นำมาปรับเขียนให้คนเพิ่งเริ่มต้นได้เข้าใจ บทความในเว็บช่วยคุณ 1 คน ให้มีอาชีพ มีรายได้ เท่ากับช่วยได้ถึง 10 คนเช่นกัน ( เพราะ 1 คนมีญาติพี่น้องที่ต้องเจือจุน )
ข้อดีของการรู้หลักที่ถูกต้อง คือคุณจะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น มีทิศทางที่ชัดเจน ไม่สับสนวนไปมา และที่สำคัญเมื่อมีงานใหญ่ระดับชาติมาว่าจ้างเราก็ทำได้ เพราะราฝึกอยู่ทุกวัน...