สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 19427เข้าชม
  • 19ตอบกลับ

**** RIG นั้นสำคัญไฉน ****

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
468
เงิน
11558
ความดี
9483
เครดิต
10056
จิตพิสัย
9235
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เนื่องจากหลัง ๆ มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ โทรมาสอบถามผมเกี่ยวกับเรื่อง RIG หรือชุด DSLR Support มากมายหลายประเด็น ไอ้เราก็ไม่ใช่จะเป็นผู้รู้อะไรมากมาย ( อันนี้ไม่ได้ออกตัว แค่คิดว่า RIG มันก็คงจะได้ต้องใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวอะไรในการใช้งาน ไม่ต้องไปเรียนให้จบปริญญาแล้วจึงจะใช้ได้ ) ก็บังเอิญที่เรามีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่กับตัวแบบครบครันและหลากหลาย อย่างน้อยก็ 2 -3 ยี่ห้อ ก็เลยหาเวลาว่าง ๆ นั่งถ่ายรุปเขียนประกอบภาพแบบพอเข้าใจครับ

ก่อนอื่น ก่อนที่ท่านใดจะอ่าน ต้องขอบอกว่าเรื่องที่ผมจะเขียน ไม่ได้เป็นเรื่องที่เทพอะไร สำหรับมือโปรแล้วก็อาจจะเปิดผ่านไปแบบไม่ต้องสงสัย แต่สำหรับมือใหม่ หรือมือเก่า แต่อยากมาสอดส่องเพื่อเก็บเกี่ยวก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

อ้างอิง
RIG มันคืออะไร


ตามความหมายใน dictionary คือ verb ที่แสดงกริยาการขึงสายระโยงระยาง การจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์

ซึ่งให้เดาในความหมายของการถ่ายทำก็คงจะพยายามจะสื่อว่า มันคือเตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายทำโดยจับมันมารวมกันหรือขึงหรือจับมันแบบระโยงระยาง ( ในที่นี้คงหมายถึงเต็มไปหมด ) แต่ยิ่งพยายามหาคำจำกัดความมันก็ยิ่งงง มีใครจำกัดความให้มันฟังดูง่าย ๆ บ้างมั้ยเนี่ย

แต่เอาเป็นว่าด้วยความรู้แบบชาวบ้านของเรามันคืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มาประกอบเข้ากับตัวกล้องเพื่อทำหน้าที่ในการรวบรวมอุปกรณ์ประกอบกล้องอื่น ๆ เข้าด้วยกัน คือถ้ามีท่านใดจำกัดความมันได้แบบลงตัวเชิญแนะนำได้เลยครับ



อย่างในรูปด้านบน นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มี RIG แล้วเนี่ย อุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งไมค์ทั้งแบตทั้งจอ ทั้งไวเลส เราจะถือกันยังไง ฉะนั้น RIG จึงเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่จำเป็นสำหรับกล้องของเรา แต่นั้นก็ไม่ได้หมายถึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้นะ

คงต้องบอกว่า " ดูตามความเหมาะสม ลักษณะการทำงาน และความจำเป็นในการใช้งาน แล้วจัด RIG ให้รองรับกับการทำงานของเราได้ ถือเป็นการดีที่สุดครับ "

เริ่มต้นเราขอแนะนำ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่พอจะมีอยุ่ให้เห็นภาพรวมแบบกว้าง ๆ กันก่อนนะครับว่า RIG ชุดหนึ่ง ๆ มันจะมีอะไรบ้าง อันไหนหน้าตาเป็นยังไง แล้วมันมีไว้ทำไม 

 
จากรูปด้านบนเราจะเป็นว่ามันมีอะไรมากมายก่ายกองเต็มไปหมด ไล่เรียงดูกันเป็นตัว ๆ เลยละกันนะครับ[

1. base plate ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะต้องนึกถึงเป็นอย่างแรก เมื่อคิดจะ RIG เพราะว่ามันคือชิ้นส่วนที่จะติดกับกล้อง และขา tripod ด้านบนมันจะมี plate สำหรับติดกับกล้อง ด้านล่างจะมี plate สำหรับติดกับขาตั้งกล้อง ถ้าไม่มีเจ้าตัวนี้คุณก็อย่าคิดไปไกลถึง mattebox แบบใส่ฟิลเตอร์ หรือ ที่ปันโฟกัสกันเลยครับ ถ้าคิดจะ RIG อุปกรณ์ก็ต้องมีเจ้าตัวนี้เป็นอันดับแรก ซึ่งเท่าที่เห็นจะมีอยู่ 2 แบบคือ

   - แบบ plate ธรรมดา 



 

จากภาพข้างบนจะสังเกตุเห็นมีรูสกรูอยู่ 2 ขนาด รูเล็กคือขนาด 1/4 , รูใหญ่คือขนาด 3/8 ส่วนมาก base plate จะมีรูสกรูสำหรับติดตั้งบนขาตั้งกล้องให้ 2 ขนาดเพื่อความหลากหลายในการใช้งาน

   - แบบ Quick release plate  ซึ่งก็จะสะดวกหน่อยเวลาใช้งานเพราะสามารถถอด plate พร้อมกับตัวกล้องออกจากชุด RIG ได้เลยในทันที 



 
 
โดยส่วนมาก base plate มักจะ มาพร้อมกับท่อ rod 15mm จำนวน 2 ชุดอยู่แล้วครับ

เวลาเรานำท่อ rod ประกอบเข้ากับ plate แล้ว ระยะห่างของท่อ rod ทั้ง 2 จะอยู่ที่ 60mm ( วัดจากจุดศูนย์กลางของท่อทั้งสองอัน ) เป้นมาตรฐานของทุก ๆ ยี่ห้อ นั่นก็หมายถึง base plate ทุก ๆ ตัวจะมีระยะห่างของท่อ rod เท่ากันหมด เราสามารถนำ rod ขนาด 15mm ของยี่ห้ออะไรก็ได้ ต่อเข้ากับ base plate ของยี่ห้ออะไรก้ได้แบบไม่จำกัด




base plate บางชุดสามารถปรับระดับความสูง หรือปรับขึ้นลงได้ จะสังเกตุเห็นด้านข้างจะมี knob สำหรับล็อคและมีรางสำหรับปรับ plate ขึ้นลงให้ได้ระดับความสูง ตามต้องการ

 

แล้วจะปรับ plate ให้สูงขึ้นต่ำลงทำไม? เหตุผล ก็เพื่อให้เรามีความยืดหยุ่นในการปรับกล้องและเลนส์ให้อยู่ในตำแหน่งความสูงที่พอดี ๆ กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น mattebox หรือ follow focus คือให้อุปกรณ์ทุกชิ้นอยู่ในตำแหน่งทีตรงกันให้มัน match กันพอดิบพอดี

2. rod หรือท่อ เป็นอุปกรณ์บ้าน ๆ ธรรมดา ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อนแต่จริง ๆ กับเป็นของหายาก ด้วยเหตุผลที่มันเป็น 15mm นี่แหละไม่รู้ทำไม อีกอย่างท่อ rod ส่วนมากมักติดมากับชุด RIG มาม่า หรือ RIG กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเค้ามีมาให้แค่นี้เราก็เลยต้องใช้แค่นี้ จะหาเพิ่มก็สุดแสนจะยากเย็น และหลาย ๆ คนมักมองข้ามมันไปด้วยนั่นเอง ท่อที่เราใช้กันกับกล้อง DSLR ก็จะเป็นท่อ 15mm ( วัดเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอก ) ซึ่งค่าจริง ๆ วัดแบบละเอียดอาจจะไม่ได้ 15mm เป๊ะก็แล้วแต่นะครับ มันยังคงมีเรื่องของค่า tolerance ซึ่งคงไม่ต้องไปสนใจมัน แค่รู้จักมันในนาม ท่อหรือ rod 15mm เท่านั้นพอ ท่อมีหลายประเภทตามวัสดุที่ใช้ผลิต

- rod อลูมิเนียมราคาถูก แข็งแรงทนทาน น้ำหนักไม่มาก

 


- rod คาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน แต่มีราคาสูงเมื่อเทียบกับชนิดอื่น ๆ



- rod สแตนเลส แข็งแรงทนทานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่น้ำหนักก็มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเช่นกัน

 

อย่างที่บอกว่า rod หรือท่อดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์บ้าน ๆ ซึ่งทุกคนมักมองข้ามมันไป แต่จริง ๆ มันเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญทีสุดในชุด RIG เพราะมันจะเป็นตัวเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน ถ้าไม่มี rod --- RIG ก็ไม่เป็น RIG 

เชื่อมั้ยว่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับท่อและความยาวของท่อ บางคนมีท่อเยอะแยะแต่ก็วาง ๆ ทิ้ง ๆ ไว้ไม่เคยได้สนใจ ทั้งที่ผู้ผลิตหลาย ๆ ค่ายพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มของเจ้าท่อ rod นี้ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถต่อขยายได้ เอาละจุ้ย ขยายท่อได้ด้วย ลองมาดูกันครับ

คือปกติเวลาเราได้ชุด RIG ซึ่งเป็นแบบชุด RIG มาม่า เราก็จะได้อุปกรณ์ครบครันพร้อมท่อที่เค้าให้มาเท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่บางครั้งเราก็อยากได้ท่อที่ยาวขึ้นกว่าเดิมจะทำยังไง ที่นี่มีคำตอบ อิอิ

 

ส่วนมากเรามักจะเห็น rod ที่มีความยาวอยู่ในช่วง 150mm 180mm 200mm 250mm 300mm และ ความยาว 350mm ( ซึ่งก็หายากอยู่ ) แต่ทีนี้ถ้าเราเกิดต้องการ rod ที่ยาวกว่านี้เช่น 400mm ซึ่งหายาก หรือมี rod ความยาว 150mm หรือ 200mm อยู่แล้วแต่ต้องการขยายความยาวให้ยาวขึ้น จริง ๆ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมี rod มันทุกความยาวหรอก เพราะมันก็จะรกบ้านโดยเปล่าประโยชน์ เราอาจจะมีท่อ rod ยาวสัก 300cm สัก 1 คู่ และก็มี 200cm สัก 2 คู่ พร้อมตัว joint สกรู อีก 1 คุ่ก็ทำงานได้ครอบจักรวาลแล้วครับ





จากรูปข้างบนนี่แหละครับ joint สกรู ที่ผมว่า มันคือชิ้นส่วน ชิ้นเล็ก ๆ ที่จะทำให้ rod ของเรายาวขึ้นได้ มันเป็นชิ้นส่วนใน RIG ที่ไม่มีใครสนใจ บางคนไม่รู้จักกับมันด้วยซ้ำแต่มันมีประโยชน์มาก ๆ ซึ่ง joint สกรู ตัวนี้ rod แต่ละค่ายเค้าก็จะทำสกรูของ rod กับ joint ให้มันมีขนาดที่สัมพันธ์กัน rod ค่ายไหนก็จะต้องใช้ joint ค่ายนั้น

 
อย่างในรูปนี้ เรานำ joint ประกอบเข้ากับท่อ rod ด้านหนึ่งจากนั้นเราก็จะสามารถขันท่อเข้ากับ joint อีกด้านหนึ่งได้



นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการต่อท่อโดยใช้ joint สกรูเพื่อเพิ่มความยาวของ rod ให้ยาวขึ้น ซึ่งมันก็จะทำให้คุณสามารถประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับ RIG ได้ตามการใช้งาน เช่น วันหนึ่งคุณอาจจะเอา rod 200mm + rod 150mm ให้ได้ท่อยาว 350mm เพื่อประกอบอุปกรณ์เยอะแยะมากมายก่ายกอง แต่อีกวันหนึ่งคุณอาจจะอยากได้ ท่อแค่ความยาว 200mm เพื่อประกอบแค่ follow กับ mattebox คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ท่อยาว ๆ คุณก็อถอด joint ออกเหลือแค่ท่อยาวประมาณ 200mm ก็เพียงพอแล้ว

อะไรแบบนี้มันจะทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอุปกรณ์ของเราได้มากขึ้น

โอย แค่ plate กับท่อเขียนนิดเดียวมันยาวได้ขนาดนี้ ใช้เวลาไปครึ่งวันแล้ว เอาเป็นว่าชิ้นอื่น ๆ จะค่อย ๆ ทะยอยมาเรื่อย ๆ มันยังมี C-shape , rod clampแบบต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทะยอยเอารูปมาลงให้ชมกันพร้อมทั้งบรรยายสรรพคุณนะครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย tkratt เมื่อ 2012-01-24 14:06 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 6 คะแนน ซ่อน
arwutman ความดี +1 2012-09-04 -
monkeymagic ความดี +1 2012-08-23 -
roengtaro ความดี +1 2012-01-25 -
toncitymania ความดี +1 2012-01-24 -
sornyorn ความดี +1 2012-01-24 ขอบคุณครับ
poonlfc ความดี +1 2012-01-24 -

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
326
เงิน
11687
ความดี
9546
เครดิต
9640
จิตพิสัย
10372
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
202
เงิน
4494
ความดี
3438
เครดิต
3436
จิตพิสัย
3568
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
        
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
134
เงิน
374
ความดี
3524
เครดิต
3566
จิตพิสัย
3371
จังหวัด
พิษณุโลก
แน่นเลยทีนี้ ขอบคุณมากคับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
194
เงิน
4783
ความดี
3833
เครดิต
3863
จิตพิสัย
3911
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
  กดไลค์กระทู้นี้ 500 ครั้งเลยคร้าบ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
34
เงิน
1453
ความดี
806
เครดิต
847
จิตพิสัย
498
จังหวัด
เพชรบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
like

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
597
เงิน
21443
ความดี
14319
เครดิต
16209
จิตพิสัย
11210
จังหวัด

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
ขอบคุณมาก
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
150
เงิน
5709
ความดี
4759
เครดิต
4988
จิตพิสัย
5114
จังหวัด
ชลบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
สงสัยอยู่พอดีครับ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ
ระดับ : Shop Owner
โพสต์
628
เงิน
20236
ความดี
15548
เครดิต
17432
จิตพิสัย
15933
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
   เยี่ยมครับ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
80
เงิน
3178
ความดี
1904
เครดิต
2224
จิตพิสัย
1218
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2012-01-24
  • รูปภาพ:3989110174_98832e409b.gif
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
509
เงิน
13475
ความดี
9806
เครดิต
9997
จิตพิสัย
11317
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2012-02-01
ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
332
เงิน
10301
ความดี
9297
เครดิต
10713
จิตพิสัย
7324
จังหวัด
พะเยา
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2012-02-01
เยี่ยมครับ เข้าใจขึ้นเยอะเลย
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
468
เงิน
11558
ความดี
9483
เครดิต
10056
จิตพิสัย
9235
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2012-02-03
**** RIG นั้นสำคัญไฉน **** ตอน 2
ทีนี้ลองมาดูภาคต่อกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่มักจะพบกันบ่อย ๆ ตามชุด RIG ต่าง ๆ อีกสักชิ้นสองชิ้นกันครับ

3. C- shape อีกชิ้นส่วนหนึ่งซึ่งในสมัยก่อนเรามักจะเห็นแต่ในชุด RIG ไฮโซ ที่เหล่า Celeb ในวงการภาพยนตร์เค้าใช้กัน

เพราะว่าในช่วงแรก ๆ เจ้าอุปกรณ์ C - shape ชิ้นนี้จะไม่ค่อยมีแยกแบบเป็นชิ้น มันมักจะมากับชุด RIG ชุดใหญ่ก็เลยทำให้หลาย ๆ คน
ไม่รู้จักกับมันเท่าที่ควร แต่ระยะหลัง ๆ กระแสของ DSLR และชุด RIG จากแดนมังกรที่มีแบบแยกชิ้น ทำให้เดี๋ยวนี้ C- shape ก็เป็น
อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว




ทำไมมันจึงน่าสนใจ ?



จากรุปเราจะเห็นว่ากล้องวิดีโอแทบจะทุกรุ่นมีที่จับบริเวณด้านบนซึ่งทำให้เราสะดวกในการหิ้วไปไหนมาไหน แต่กล้อง DSLR ไม่มีเจ้าที่จับตรงนี้
ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่า ไม่มีก็ไม่แปลกเพราะเราก็หิ้วที่ตัวกล้องสิจะมาหิ้วด้านบนทำไม



ลองดูรูปนี้ครับ และลองนึกว่าถ้ากล้องที่ใช้ถ่าย shot แบบนี้เป็น กล้อง DSLR คุณจะหิ้วมันยังไงถ้ากล้องของคุณไม่มีที่หิ้วด้านบน
ทีนี้คงเห็นภาพแล้วใช่มั้ยว่า ไอ้เจ้า C-shape มันมีประโยชน์อย่างไร


ตัว C - shape มันจะเป็นชิ้นส่วนที่มีหน้าตา เหมือนตัว C ซึ่งด้านล่างของมันจะเป็น clamp สำหรับประกอบกับท่อ rod 15mm แบบคู่
ซึ่งส่วนมากเราก็จับมัน mount เข้ากับ rod ที่ติดกับ baseplate นั่นแหละครับ ส่วนด้านบนของ C- shape มันก็จะมี clamp สำหรับประกอบกับ
ตัว top handle ซึ่งจะเป็น แฮนด์ด้านบนสำหรับให้เราหิ้วกล้องไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก



แบบในรูปด้านบนนี้เราจะเห็นการประกอบ C- shape เข้ากับ rod และ top handle

C- shape จะมีรูปร่างหน้าตาได้หลากหลายตามการออกแบบของ RIG แต่ละชุดซึ่งอาจจะมองแบบกว้างตามฟังก์ชั่นการใช้งาน

 - C - shape แบบทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะมีหน้าตาเป็นโลหะหล่อชิ้นเดียวเหมือนในรูป (เปิดปิดไม่ได้)



C - shape บางอันก็อาจจะมีการเพิ่ม rod หรือ รูน็อตสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้อีกด้วย บางอันก็อาจจะไม่มีเป็นโลหะ
เกลี้ยง ๆ อันนี้แล้วแต่ค่ายผู้ผลิต

- C - shape แบบ Side open หรือ เปิดออกด้านข้างได้ หลัง ๆ RIG หลาย ๆ ชุดเริ่มทำ C - shape
แบบเปิดด้านข้างมากขึ้นครับ เนื่องจากมันจะทำให้เราสะดวกในการติดตั้งหรือถอดกล้องออกจากชุด RIG



จากรูปเราจะเห็นว่าที่ C- shape จะมีหมุดที่สามารถหมุนเพื่อเปิดออกด้านข้างได้ แบบในรูปนี้ซึ่งเราจะสะดวกขึ้นเวลาหยิบกล้องออกจากชุด



ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของ C- shape ก็คือมันจะเป็นพื้นที่สำหรับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ  เราสามารถ mount อุปกรณ์อะไรก็ตามแต่
ทั้ง ไฟหัวกล้อง ไมโครโพน จอมอนิเตอร์และอื่น ๆ ซึ่งก็คงต้องแล้วแต่ว่า C -shape อันนั้นมันมี rod หรือมีรูน็อตอะไรมาให้เราบ้างนะครับ



ต่อมาเรามาดูชิ้นส่วนอีกหนึ่งอันที่มักจะมาคุ่กับ C-shape นั่นก็คือ ตัว top handle หรือ แฮนด์สำหรับจับด้านบน

4. Top handle อย่างที่บอกว่ามันมักจะมาคู่กันกับ C-shape บางรุ่นบางยี่ห้อก็มาเป็น แฮนด์อันเดี่ยว ๆ บางรุ่นก็มีแฮนด์มาพร้อม
กับท่อ rod อันนี้ก็ต้องแล้วแต่การออกแบบ แต่ที่เห็นนิยมกันก็จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ คือ มีแฮนด์จับด้านบน และมีท่อ สองท่อสำหรับประกอบ
กับ C-shape



ส่วนการประกอบ C - shape กับ แฮนด์นั้นจะประกอบเข้ากันอย่างไร คงไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวอะไรครับขึ้นอยู่กับการใช้งานเลย
อย่างในรูปนี้ ผมวาง C - shape ไว้หลัง baseplate แล้วก็ประกอบแฮนด์ไว้ข้างหน้า



แต่รูปนี้ผมกลับกันคือเอา C - shape ไว้หน้าสุดของ RIG แล้วก็เอาแฮนด์ประกอบไว้ด้านหลังของ C - shape แทน



ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราทั้งสิ้น ไม่มีอะไรถูกอะไรผิด

 แต่มันมีเคล็ดลับอยู่ว่า เวลาเราประกอบ C -shape และแฮนด์ด้านบน ให้เราใช้ความพยายามในการหาจุดบาลานซ์ให้มากที่สุด
คือเมื่อเราประกอบกล้องและ RIG เรียบร้อยแล้ว ลองหิ้วที่ Top handle ดูว่ากล้องมันมีอาการเอนไปข้างหน้า หรือเอนไปข้างหลังมั้ย
ถ้ามันเอนไปด้านใดด้านนึงแสดงว่าศูนย์มันไม่ดี เวลาเราใช้งานจะหิ้วไปไหนหรือหิ้วตอนถ่ายมันก็จะทำให้เกิดความลำบากในการใช้งาน
เพราะมันอาจจะเอนไปข้างหน้าหรือข้างหลังแล้วทำให้เราต้องเกร็งมากเป็นพิเศษเวลาเราถือมัน แต่ถ้าบาลานซ์ดี ๆ เวลาหิ้วก็จะ
ไม่ต้องเกรง สบายกว่ากันเยอะครับ

รู้จักไปอีกสองแล้ว เด๋วต่อไปจะทะยอยมาอีกทีละชิ้นสองชิ้นครับ



[ แก้ไขล่าสุดโดย tkratt เมื่อ 2012-02-03 02:37 ]
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
92
เงิน
2544
ความดี
2177
เครดิต
2612
จิตพิสัย
1141
จังหวัด
นคราชสีมา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2012-02-03
ขอบคุณมากครับคราวนี้จะได้เรียกแต่ละชิ้นถูกซะที
ระดับ : สมาชิก I
โพสต์
4
เงิน
748
ความดี
262
เครดิต
308
จิตพิสัย
137
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2012-08-23
คาราวะให้ หนึ่งพันสองร้อยหกสิบแปดล้านทีครับ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้