จะทำหนังสั้นส่งประกวด อ่านหน่อยนะ..ขอร้องล่ะ

           เมื่อคืนฝันไปว่า ได้ไปเป็นคณะกรรมการตัดสิน ประกวดหนังสั้นฯ  มองเห็นปัญหาเล็กน้อยแต่สำคัญ รวมถึงข้อผิดพลาดของทีมงานผลิตที่ส่งหนังสั้นเข้าประกวด ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ...
    ก็เลยนำมาเล่าสู่น้องๆให้ฟังเล่นกัน....เรามาดูข้อกำหนด กติกาที่เขาตั้งไว้เป็นโจทย์ให้เราทำก่อน ( ส่วนมากก็ลอกกันมาคล้ายๆกัน )...


             -1.  คอนเซ็ปและเนื้อหา                  30   คะแนน
            - 2. เทนิคการเล่าเรื่อง                     30       "
            - 3. ความคิดสร้างสรรค์เชิงบวก     30        "
            - 4. เทคนิคในการถ่ายทำและผลิต   10       "      (  คะแนนแต่ละข้อมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของสื่อที่กองประกวดต้องการ )..


ก่อนอื่นต้องท่องจำกฏกติกาเหล่านี้ให้ขึ้นใจ ท่องๆๆๆแล้วก็ท่อง หรือจะถ่ายเอกสารให้ทีมงานทุกคนพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เมื่อใดที่สงสัยหรือหาทางออกไม่ได้ ไม่ต้องทะเลาะกัน 
นำแผ่นกฏกติกาขึ้นมากาง และเทียบเคียงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่่ว่า เรากำลังหลงทางออกนอกกฏหรือเปล่า , หรือเราหลงทางเน้นนำ้หนักข้อใดข้อหนึ่งมากจนละเลยข้ออื่นๆไป
อย่าลืมว่าทุกข้อมีความสำคัญเท่ากันหมด ( ถ้าไม่สำคัญกรรมการฯคงไม่ตั้งกฏขึ้นมาให้เราทำ )….


   ข้อ1. เนื้อหา หรือก็คือบทที่เขียนขึ้น สมจริงมีเหตุผลรองรับ ได้เนื้อหาครบถ้วนตามกฏที่เขาตั้งขึ้นหรือเปล่า หลายเรื่องไม่ค่อยให้ความสำคัญกับข้อนี้ เราเข้าใจว่าเนื้อหาบาง
           ครั้งก็สวนทางกับการนำเสนอข้ออื่น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้อนี้สำคัญที่สุดนะคับ ( ไม่งั้นเขาไม่ให้อยู่ข้อ 1 )..


  ข้อ 2. เทคนิคการเล่าเรื่อง หรือการนำเสนอ  ก็เหมือนกับการเล่านิทาน เล่าเป็นก็ขำ คนฟังรู้เรื่อง เล่าไม่เป็นก็เข้าป่าลงเหวไปทั้งเรื่องเหมือนกัน 
           ( วิธีตรวจสอบให้คนอื่นดูแล้วถามเขาว่า เข้าใจตรงตามที่เรานำเสนอหรือไม่ )…ดูสนุก รู้เรื่อง แต่อย่าเพลินจนลืมข้อ1 นะคับ สำคัญๆๆๆ...


ข้อ 3. ความคิดสร้างสรรค์ จะขี่จรวดออกนอกโลก เลยเถิดไปจนถึงดาวอังคารนู่น ไม่ว่ากัน สำคัญที่ว่า คนอื่นดูแล้วต้องเข้าใจว่าเรานำเสนออะไรอยู่
อย่าลืมหันดูข้อ 1  ก็คือเนื้อหานั่นล่ะคับว่า ตรงตามกฏที่เขาตั้งไว้หรือเปล่า....( ครบทุกเนื้อหาที่โจทย์เขาตั้งไว้นะคับ )..


  ข้อ 4. เทคนิคในการถ่ายทำ เห็นยังว่า มีน้อยนิดมาก ใครที่ชอบบิน ชอบพกอุปกรณ์ยากลำบากในการถ่ายทำ เครน ดอลลี่ เลนส์ยาว ทำให้งานยากลำบากมากๆ เพื่อที่จะให้
          คณะกรรมการเข้าใจว่า ทีมงานเรามีความยากลำบากและตั้งใจทำงาน คณะกรรมการเขาไม่นำมาคิดนะคับ เขาจะอิงกลับไปยังข้อ 1 ทั้งหมด …


    หลายเรื่องที่ส่งเข้าประกวด มีข้อพลาดเยอะมากคือ...
    -  ให้ความสำคัญกับข้อ 4 มากเกินไป โดยเฉพาะทีมผลิตที่มีอุปกรณ์ครบ มากเกินจนต้องถามกลับไปว่า ทำไม่ทำต่างกันตรงไหน คุณต้องตอบให้ได้นะคับ …..
    -  ให้ความสำคัญกับผู้แสดงมากจนลืมเรื่องที่นำเสนอ ( ข้อ 1) เนื่องจากค่าตัวแพง ต้องใส่ๆ ต้องเพิ่ม ต้องมี ต้องโชว์ ยัดเยียดเสียจนต้องตั้งคำถามในใจว่า 
        …ทำไมต้องจ้างดารามาแสดง …ต่างกับคนธรรมดาตรงไหน ในเมื่อเนื้อเรื่องไม่มีอะไรเด่น กลายเป็นว่าลงทุนในส่วนที่ไม่ควรลงทุน คะแนนโดนตัดนะคับ...
    -  ควรมีการสรุปเนื้อหาตอนท้ายอีกครั้ง เพื่อเป็นการเน้นยำ้ เพราะบางครั้งเรามัวแต่ไปพะวงข้ออื่น จนทำให้ข้อ 1 ด้อยไม่มีนำ้หนัก สรุปจบกลับเข้าเนื้อหาอีกครั้ง
       จะเป็นการตรวจสอบงานของเราด้วยว่า หลงทิศทางจนกู่ไม่กลับหรือไม่...( ถ้าสรุปเข้าเนื้อหาไม่ได้ แสดงว่ามาผิดทางต้องรีบแก้ )…
    -  อย่ามั่นใจกับผลงานจนคนอื่นเลวหมดในสายตา ( เมื่อไม่ชนะ ) อย่าลืมว่า ทุกข้อ สำคัญหมด การตัดสินบางครั้งก็ลำบากในการให้คะแนน เหมือนงานเวดดิ้งที่พี่ๆนำเสนอ
       ในเว็บ บอกแทบไม่ได้ว่า งานใครดีกว่าของใคร เพราะทุกคนมีอิสระในการนำเสนอ ฉนั้น ถ้าคะแนนข้อ 2 - 4 สูสี ไม่ขาดลอย  คณะกรรมการจะกลับมาทบทวน ข้อ 1ว่า
       ใครที่นำเสนอได้เนื้อหาครบถ้วนมากกว่ากัน ( ตรงนี้แหละที่จะเป็นตัวตัดสินให้คุณได้รางวัลกลับบ้านหรือไม่ ).. 
    -  สำหรับทีมน้องใหม่ที่น้อยประสบการณ์ หรือทีมต่างจังหวัดที่มีเครื่องมือไม่พร้อม คุณต้องยอมรับข้อด้อยข้อนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีที่จะชนะได้ก็คือ ต้องขยันมากกว่า
       ทีมอื่น 1 เท่าตัว พยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือหาใครที่เป็นมืออาชีพจริงๆ มาเป็นที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำ ดูทิศทางที่คุณจะเดินไปได้อย่างถูกต้อง 


           อย่าไปเชื่อคำที่ใครๆเขาพูดกันว่า " การทำหนังสั้นต้องทำให้ดูไม่รู้เรื่อง ทำให้ยากเข้าไว้ หรือทิ้งปมให้คนดูสับสนเข้าไว้ " อย่าไปเชื่อนะคับ  ยกเว้นหนังสั้นเฉพาะกลุ่ม
       หรือหนังที่เขาปล่อยอิสระ เช่น งบจากต่างประเทศ หรืองบที่เจาะจงให้คนนั้นทำเท่านั้น ถ้าเป็นการทำหนังสั้นประกวด จะมีกรอบกติกาที่คุณต้องอิงไว้อย่าหลุดประเด็นเด็ดขาด
        ใครที่เคยส่งหนังประกวดแล้วพลาด ลองกลับไปดูงานเก่าๆอีกครั้ง แล้วนึกให้ออกว่าคุณพลาดอะไรถึงไม่ได้รับรางวัล ที่เห็นๆมาส่วนมากพลาดข้อ 1เกือบทั้งนั้นล่ะคับ..
        ….และใครที่เป็นคณะกรรมการฯตัดสินหนังสั้นอยู่ อย่าโกรธผมที่เอาความลับมาบอกนะคับ...เพราะผมบอกตั้งแต่บรรทัดแรกแล้วว่า ผมฝันไป...

ถึงว่า ........  

กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ  

ข้อ 2 3 4 นั้นเป็นสิ่งที่มาซัพพอร์ตเนื้อหาทั้งหมดครับ

ภาพสวยแต่ไม่ช่วยหนัง มันก็ไม่มีค่าครับ นำเสนอจัดจ้านแต่ไม่เข้ากับเรื่อง ก็ไม่มีผลอะไรครับ ทุกอย่างต้องพอดีกััน และมันจะดีพอครับ

สำหรับมือใหม่ การเล่าเรื่องง่ายๆให้ได้อารมณ์มันยังเป็นเรื่องที่ยากเลยครับ เล่าเรื่องที่เรารู้สึก เล่าเรื่องที่เราอิน มันจะช่วยได้มากครับ ที่สำคัญถ้าเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ต้องเล่นท่ายากมากก็ได้ครับ บางครั้งเล่าง่าย แต่ได้อารมณ์ มันทำให้คนดูเข้าใจและอินจนลิมเทคนิคไปเลยล่ะครับ

อย่าไปเชื่อคำที่ใครๆเขาพูดกันว่า " การทำหนังสั้นต้องทำให้ดูไม่รู้เรื่อง ทำให้ยากเข้าไว้ หรือทิ้งปมให้คนดูสับสนเข้าไว้ " อย่าไปเชื่อนะคับ
ชอบตรงนี้มากเลยคับ ......

รับทราบครับ

เราเคยเข้ารอบ เพราะแปลกกว่าคนอื่น   

  ข้อ1. เนื้อหา หรือก็คือบทที่เขียนขึ้น สมจริงมีเหตุผลรองรับ   ข้อนี้สำคัญมากจริงๆนะ