รับสมัครช่างภาพ ( คุณสมบัติ 6 ต้อง )ใครทำได้รับไม่อั้น..

เนื่องจากช่างภาพคือผู้ที่อยู่ด่านแรกของการทำงาน ( ถ้าไม่มีคนนี้คนอื่นก็ไม่มีงานทำ ) ฉนั้น งานที่จะเกิดขึ้นมาได้ ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนคนนี้เดียวเท่านั้น( กรณีทำงานคนเดียว ) ด้วยความที่เป็นบุคคลสำคัญที่สุดในสายโปรดัคชั่น ช่างภาพจึงต้องมี 6 ต้อง….สำคัญทุกข้อ

1. ต้องกลัว ทุกครั้งที่กดปุ่มREC ต้องมีความกลัว กลัวว่าเรากำลังทำตามคำสั่งที่ลูกค้าต้องการอยู่หรือไม่ , ถ้าไม่ใช่หรือไม่แน่ใจก็ควรรีบเปลี่ยน ,
              และถ้าเราทำตามคำสั่งที่ถูก เกิดลูกค้าไม่ชอบใจจะทำอย่างไร ..ฉนั้น วิธีแก้งานก็คือ ถ่ายให้ครบทุกบรรยากาศ ทุกช่วงขนาดของภาพ 
               ถ่ายสิ่งที่ลูกค้า ต้องการและถ่ายสิ่งที่ลูกค้าไม่ต้องการ ถ่ายและถ่ายทุกๆอย่างที่ทำได้ขณะนั้น เมื่อลูกค้าเปลี่ยนใจเราก็มีสิ่งอื่น
               ให้เลือกด้วยเหมือนกัน( เพราะเราถ่ายเผื่อไว้ทุกอย่าง )

 2. ต้องระวัง หาทางออกให้กับงานที่เราทำผิดอยู่เสมอ เช่น ช็อตนี้เราถ่ายเสียด้วยเบลอโฟกัส หรือมีคนเดินมาชนกล้อง เราจำต้องถ่ายภาพอื่นที่มี                       อารมณ์เดียวกัน หรือใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เราทำเสียในตอนนั้น ( ทำให้ได้ ) เพื่อบอกให้ช่างตัดต่อรู้ในภายหลังว่า เราได้ถ่ายส่วนดี                     แทนส่วนเสียมาให้แล้ว อยู่ตรงช่วงไหนบ้าง( แก้ไขงานที่ผิดพลาดให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น )

3.ต้องรอบคอบ พยายามดูซ้ายขวาหน้าหลัง และรอบตัวเราเสมอทุกครั้งที่จับกล้องถ่าย มองเหตุการณ์ปัจจุบันว่าอะไรเกิดขึ้น แล้วเราควรทำอย่างไร
               เดาเหตุการณ์อนาคตถึงสิ่งที่กำลังเกิด และถ้าเหตุการณ์ที่เกิดไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เราจะแก้ไขและทำอย่างไรให้งานที่กำลังทำ
               ออกมาเสียหายน้อยที่สุด เช่น ปลั๊กไฟดับ , ย้ายมุมด่วน ฯลฯ( ไม่คุยเล่นดีที่สุด )


4.ต้องมีความรู้ งานทุกงานที่ทำล้วนมีหลักอยู่เสมอ  (เพียงแต่เราไม่รู้ใช่ว่าไม่มี ) รุ่นพี่สมัยก่อนจะประกอบอาชีพนี้ต้องเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง                      เรียนจบยังทำงานไม่ได้ ต้องไปฝึกงานอีกหลายเดือนเพื่อเรียนรู้ว่า งานแบบไหนควรทำอย่างไรให้ออกมาดีที่สุด น้องใหม่รุ่นนี้โชคดีมี                          เทคโนโลยีช่วย   แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะงานบางอย่างเทคโนโลยีก็ไม่สามารถทำได้ ศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมให้กับตัวเองอยู่เสมอ 
              เป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้าคิดจะอยู่ ในอาชีพนี้( โดยเฉพาะน้องใหม่ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง ต้องขยันกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว ) 

5. ต้องอดทน เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด หลายงานต้องใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะเป็นกรณี เช่น ถ่ายโดยแบกบ่าเนื่องจากขากล้องตั้งไม่ได้ , 
              ใช้ตัวบินหลายชั่วโมง ฯลฯ เหล่านี้ คนในทีมงานทุกคนเข้าใจนี่คือสิ่งที่ช่างภาพควรทำเพื่อให้งานของลูกค้าออกมาดีที่สุด
               เหนื่อยแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น .. ( อย่าบ่นเลยขอร้องล่ะ )
6.ต้องมีสติ   งานทุกงานที่ลูกค้ามอบหมายให้ เปรียบเสมือนลูกค้าได้มอบชีวิตทั้งชีวิตให้เราดูแล และงานทุกงานย่อมมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่เสมอ
               แม้เราจะระวังแล้วก็ตาม สิ่งที่ต้องมีเสมอก็คือสติ( สติในการทำงาน สติในการคิด สติในทุกๆข้อที่กล่าวมา ) มีสติทุกครั้งในการทำงาน..

        ใครว่างานช่างภาพสบาย แค่ถ่ายอะไรก็ได้ให้ภาพติด หรือถ้าทำงานผิดพลาดก็เพียงหาข้อแก้ตัวเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ไปในแต่ละงาน
          ถ้าช่างภาพคนไหนไม่สามารถทำได้ใน 6 ข้อนี้ อยากบอกว่า..เลิกอาชีพนี้เถอะเปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่นที่สบายกว่านี้ ( มีให้เลือกเยอะ ) ..

     " .... ไม่ใช่อะไรหรอก  ผมสงสารลูกค้าน่ะคับ  " (  6 ต้องคือ 6 ข้อ ที่ช่างภาพทุกคนต้องมีเพื่อให้งานลูกค้าออกมาดีที่สุด )

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับ

แปะติดไว้ เตือนสติ กับสาระดี ๆ ครับ

ได้จ้อคิดดี ๆ ของการเป็นช่างกล้องเล็ก ๆ น้อย ๆ

โอ้ว..ดีจริงๆถูกต้องที่สุดเลยครับ สมัยนี้คนคิดแค่ว่ามีกล้องกดปุ่มบันทึกเป็นก็คิดว่าถ่ายเป็นออกมารับงานรับเงิน สุดท้ายคนตัดต้องมารับกรรม...ประมาณว่าถ่ายอะไรมาเนี่ย หลักการจัดองค์ประกอบภาพพื้นฐานยังไม่มี...นี่ยังไม่รวมการเซ็ตกล้องเพื่อนำไปทำสี เรื่องแสง ไวท์บาลานซ์ มากมาย อยากให้คนที่มีกล้องและคิดจะรับงานอ่านกระทู้นี้จัง ขอนำไปแปะไว้ที่ทำงาน ขอบคุณนะครับ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับช่างภาพอีกนิด ปัจจุบันช่างภาพตัวจริงหายากยิ่ง มีแต่ตัวปลอม ราคาคุยเยอะ บางบริษัทจ้างฟรีแลนซ์
พอถ่ายงานเสร็จเปิดดู เมื่อเห็นปัญหาถามทันทีเลยว่า ช็อตนี้ทำไมถ่ายแบบนี้, ช็อตนั้นทำไมไม่ถ่าย, แล้วถ่ายแบบนี้จะตัด
งานยังไง ถามไปถามมาช่างภาพต้องคืนเงิน ( เคยพูดไปแล้วกรณีนี้) รักเป็นช่างภาพต้องรับผิดชอบผลงานที่ทำด้วย
อีกอย่างที่อยากฝากไว้เป็นข้อคิดก็คือ อย่าเขื่อในสิ่งที่ตาเห็น โดยเฉพาะเจ้าแบตกล้องนี่ล่ะตัวดี เห็นขีดเต็มกด2ทีแบตหมด
เฉยเลยก็เคยเจอ งานจะเข้าถ้าเกิดไปหมดเอาช่วงสำคัญ  เช่น ตัดเค้ก, แขกผู้ใหญ่อวยพรหรือสวมพวงมาลัย หรือสวมแหวน
สำหรับผมไม่เคยไว้ใจสิ่งใดในโลก ถ่ายงานแต่งใช้ไฟกล้องตลอด หน้าซุ้ม เขียนคำอวยพร ก็ใช้สายไฟลากไปมาแถวนั้นล่ะ
เพราะช่วงนี้ใช้เวลานานมาก ถ่ายตั้งแต่5โมงเย็นกว่าเริ่ม8โมง คาดว่าอีก10นาทีจะเริ่มงานเวที ผมก็จะย้ายสายไฟไปหน้าเวที
หน้าซุ้มใช้แบตไปจนถึงเจ้าบ่าวขึ้นเวที ก็เปลี่ยนใช้ไฟอีกเหมือนกันเพราะงานเวทีบางทีพูดไปมาเป็นชั่วโมงก็มี ขืนใช้แบตตลอด
หมดตอนผู้ใหญ่กล่าว หรือตอนตัดเค้กงานเข้า ลูกค้ามีสิทธิ์ไม่จ่ายเงินนะคับ...ท่องไว้อย่าพลาดแม้วินาทีเดียว

ใช่ครับ ผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครับ แบตหมดก่อย ดีนะ เป็นงานคนกันเอง ไม่งั้น คงต้องยอมจ่ายเงินคืน

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆนะครับ