เป็นโจทย์ที่น่าสนใจครับ..
- หากให้เทียบด้วยเทคโนโลยีและความใหม่ในการรองรับสิ่งต่างๆผมว่า GH3 น่าสนใจกว่านะครับ เพราะไม่ว่าราคา AF102 จะลงสักเท่าไหร่ ก็คงยึดอยู่ที่หลักแสนอยู่ดี เพราะรูปลักษณ์อย่างไรก็ยังถือว่าเป็นสายพานการผลิตของกล้องประเภท Broadcasting ในขณะที่ GH3 ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบราคาเงินไทยที่แน่นอน แต่แน่นอนครับ บอดี้เปล่า หรือต่อให้มาพร้อม 12-35/2.8 ซึ่งเป็น Normal Zoom ออกมาเทียบเท่า 24-70/2.8 ทั้ง EF(L) และ Nikon(Nano)
ผมว่ายังไงก็ไม่ถึงหกหลักครับ ที่สำคัญยังสามารถถ่ายภาพได้อีกด้วย...ก็ไม่แปลกอะไรที่ GH3 จะน่าสนใจกว่าในราคาที่ถูกกว่า ได้ความใหม่ของเทคโนโลยี และยังได้ฟังค์ชั่นภาพนิ่งอีกด้วย ด้วยความรูปลักษณ์ของ DSLR ย่อมน่าสนใจกว่าอยู่แล้วครับ
- GH3 ยังมีฟังค์ชั่นในการควบคุมการทำงานบางส่วนผ่านระบบ Wifi รองรับระบบปฎิบัติการ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ที่ปฎิเสธไม่ได้อย่าง iOS และ Android นั้นก็หมายความว่า Smartphone กว่า 90% และถึง Tablet (เผื่อสัก 10% ไว้ให้ OS จาก Windows Mobile ที่กำลังมา) สามารถทำงานร่วมกับกล้องตัวนี้ได้หมด ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า App ดังกล่าวนั้นจะปล่อยฟรีหรือไม่ ซึ่งบางคนอาจบอกไม่จำเป็น ซึ่งแน่นอนครับเพราะตอนนี้ยังไม่มีใครเคยใช้ แต่พอถึงเวลาจริงมีโอกาศได้ทดลองใช้แล้ว ผมว่าถึงตอนนั้นค่อยตอบอีกครั้งจะดีกว่าครับ เพราะมองเล่นๆ ถึงแม้ผู้ใช้บอกไม่จำเป็น แต่หากเรามีการใช้งานไม่ว่ามันจะใช้ได้จริงหรือไม่มากน้อยแค่ไหน แต่ในแง่ของภาพลักาณ์เมื่อลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่ก็มี Smartphone กันหมดได้เห็น..ผมว่า ได้ภาษีดีพอสมควรนะครับ
- Internal Mic Stereo ของกล้องตระกูลนี้ไม่ผิดหวังครับ ถึงแม้ GH3 จะให้ Bitrate เสียงได้เพียง Sampling 44.1 KHz Encoding 16 Bit ระดับมาตรฐาน CD Quality (1144 Kbps) แต่เมื่อส่วนตัวซึ่งผมเป็นคนทำงานเสียงได้ทดลองจาก GH2 แล้ว ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่งเลยครับ ทั้งคุณภาพ และ มิติ บางท่านอาจบอกว่ายังไงก็ต้องเชื่อมต่อ External Mic อยู่แล้ว อันนี้ก็แล้วแต่ครับ.. เพราะหากนั่งสัมภาษณ์อย่างเดียวอันนี้คงไม่มีอะไร แต่ในแง่การถ่ายสารคดี หรือ ภาพยนตร์แม้เพียงระดับ 1K เหล่านี้พื้นฐานเป็นงาน Stereo ล้วนๆครับ (สำหรับ AC3/DTS ค่อยว่ากันอีกที) โดยเฉพาะภาพยนตร์ Ambient และ Score Sound สำคัญที่สุด
- External Mic การเชื่อมต่อ Input ของ GH3 อาจแพ้ AF102 ตรงที่ไม่สามารถต่อ XLR Balance ได้โดยตรง อาจต้องซื้อ Option Hardware จาก Panasonic เพิ่ม ซึ่งต่างกับ AF102 ที่ต่อตรงได้เลย และให้ Bitrate ได้ที่ Sampling 48.0 Khz Encoding 16 bit Video Quality (1536 Kbps)
- GH3 ยังสามารถเลือกสกุล Format ในการบันทึกได้ ไม่จำเป็นแค่โครงสร้าง Blu-Ray อย่าง BDMV(AVCHD) เท่านั้นอีกต่อไป ยังสามารถได้ MOV(H.264) ซึ่งเป็น Uncompress (50/72 Mbps) ได้อีกด้วย รวมถึง mp4 (H.264) เปิดโอกาศให้ผู้ใช้สามารถเลือก Quality ของงานได้สะดวก (Quality นะครับ..ไม่ใช่ Resolution) เพราะบางท่านอาจมีสเป็คเครื่องตัดที่ไม่สูงนัก รวมถึง SD Card ที่ใช้เดิมอยู่แล้ว ก็สามารถใช้งานได้ตามความเหมาะสมครับ ถือว่าเป็นกล้องที่ยืดหยุ่นมากๆครับ
- GH3 ได้พัฒนาให้ Viewfinder Coverage สามารถมองเห็น Compost จริงได้ 100% แล้วยังเป็น Monitor ประเภท OLED ซึ่งให้ความคมชัดสูงแม้ในที่สว่างมาก ที่สำคัญค่อนใช้พลังงานที่น้อย และบางความเห๋็นจากต่างประเทศยังกล่าวว่า มีการแก้ไขระบบ Touch Screen จอให้ตอบสนองได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่า GH2 ผมว่าส่วนนี้มีประโยชน์มากครับ โดยเฉพาะการเลือกตำแหน่ง Focus ของภาพ
- GH3 ในแง่ของภาพนิ่งถึงแม้ Sensor จะเป็น 4/3 ซึ่งเล็กกว่าขนาด CMOS ของ Canon และ Nikon DSLR ก็ตาม แต่ GH3 ค่อนข้างพัฒนาเทคโนโลยีในแง่ภาพนิ่งขึ้นมาได้เยอะครับ สามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ขนาด Max.Resolution JPEG อาจจะเล็กกว่า Canon 60D ก็ตาม แต่ในส่วนของ Scene Mode Colour Correct มีมาให้ในกล้องค่อนข้างเยอะครับ อาจสามารถใช้งานได้จริงในระดับหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องพึ่ง Lightroom เสมอไป นอกจากนี้ใน GH3 ยังมี Baterry Grip และรองรับ Flash External ได้อีกด้วยซึ่งต่างกับ GH2 ทีนี้เราก็ต้องมาคอยผลการทดสอบกันครับว่าในแง่ภาพนิ่ง GH3 จะทำได้ดีเพียงไร เพราะหากผลเป็นที่น่าพอใจ GH3 อาจมีภาษีดีกว่า DSLR ที่ปัญหาเรื่องบันทึก Realtime ยาวๆไม่ได้อย่าง Canon และ Nilon ก็ได้ครับ ถึงแม้ว่า Charactor ของภาพที่ได้ออกมาอาจมีความต่างกันบ้างก็ตาม
- บางท่านบอกว่า GH3 และ AF102 เป็นกล้องคนละแนวกัน ผมว่า.."แนวเดียวกันนะ" ภาพลักษณ์ของ Video DSLR กับ Video Broacasting Camcorder ที่เราติดกันในอดีตอาจเป็นส่วนหนึ่งให้เราฟันธงว่า กล้อง 2 ตัวนี้คนละแนวกัน ซึ่งหากเทียบกับทาง Canon ก็คงใช่ครับ เพราะไม่ว่าราคาสูงแค่ไหนทั้ง 5DMkIII และ 1DC ก็ไม่สามารถบันทึกได้ระยะเวลายาวๆ (เอาแค่ประเด็นนี้ก่อนนะ) ซึ่งคงต่างกับ C300/C500 ที่ออกมา แค่นี้ก็ต่างกันแล้วครับ ถูกต้องเลยครับคนละแนว แต่....ทางด้าน GH3/AF102 คงไม่ใช่ครับ เพราะ 2 ตัวแทบไม่มีความต่างทางด้านประเด็นหลักในการทำงาน Video กันเลย ไม่ว่าจะด้านระยะเวลาการบันทึก / Mouse Lens / Format File อาจจะมีต่างกันบ้างที่ Input Output Jack ทั้งภาพและเสียงที่ AF102 ยืดหยุ่นกว่า แต่แค่ GH3 มีช่อง Headphone out มาให้..แค่นี้ก็จบแล้วครับ
แต่บางครั้งมีอีกบางประเด็นที่เป็นปัญหาโลกแตกตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน คือ ลูกค้าและงานบางประเภท ยังคงติดกับภาพลักษณ์ว่ากล้อง Video จะต้องประทับบ่า หรือ เป็นกล้องขนาดใหญ่เท่านั้น (ทั้งๆที่ก็ต้องส่งงานคุณแค่ DV PAL แม้ในปี 2012 แล้ว) ก็ยังคงต้องเป็นกล้องใหญ่อยู่ถึงจะเชื่อมั่น ซึ่งหากเจอประเด็นอย่างนี้..แน่นอนครับ..GH3 ต่าง และ คนละแนว กับ AF102 แน่นอน!!
**ทั้งหมดเป็นวิเคราะห์จากความคิดเห็นส่วนตัว และ ประสบการณ์อันน้อยนิดของผมเท่านั้นนะครับ อาจพอเป็นแนวทางให้กับเจ้าของกระทู้ได้บ้าง ซึ่งผมเองและพรรคพวกหลายคนที่รู้จักในสายงานเดียวกัน ก็ยังคงเฝ้ารอ GH3 กันอย่างจดจ่อ บางท่านถึงขนาดโทรไปสั่ง Sale Panasonic ไว้โดยตรงของจองตั้งแต่สินค้ายังเดินทางไม่ถึง (พี่เค้าเป็นแฟน Panasonic และ GH2 ตัวจริงเลยครับ..
อิอิ) ..