"หลอกใช้" กับ "ให้โอกาส" ความเหมือนที่แตกต่าง

ทั้งสองกรณีครับ ใครเคยโดนกันบ้าง ประสบพบเจอมาอย่างไรกัน แชร์กันได้ครับ เผื่อ เด็กน้อยจะได้รู้เท่าทันผู้ใหญ่ใจร้าย และ ผู้ใหญ่ใจดีจะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด

ส่วนตัวผม สมัยอยากดังใหม่ๆก็โดน แต่สมองผมมันไม่ค่อยดี เรื่องแย่ๆดันจำไม่ได้ซะงั้น

เชิญครับพี่น้องทุกท่าน

ให้เค้าหลอกใช้ แต่เป็นการให้โอกาศตัวเอง

5ปีที่แล้ว ไม่มีวิชาชีพติดตัว เรียนจบก็ ม6 กศน ทำงานเป็นคนเปิดสปอตโฆษณา

พอดี มีโปรดักชั่นมาเปิดในสถานี เค้าชวนมาลองทำก็เลยลอง

(ไม่มีเงินเดือนไม่มีค่าข้าวอาศัยคนในบริษัทเค้าช่วยๆกันมึงมีกุมีผลัดกันจ่าย)

จนได้ทำงานสายนี้ ถ้าไม่ทำสายนี้ก็ไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนกัน

ทุกวันนี้ยังขอบคุณไม่หายที่หลอกใช้กัน ขอบคุณครับ

หลายครั้ง ที่รู้ตัวว่า โดนหลอกใช้นะ แต่ก็ยอม

โดยเฉพาะคำพูดแนวๆว่า วุฒิไม่เกี่ยว ไม่สนใจหรอก แต่ได้เงินไม่เท่าคนอื่น ก็จ่ายตามวุฒิอยู่ดี
โดยมากเป็นงานประจำ ส่วนฟรีแลนซ์ อันนี้ได้เต็มดี ถึงว่า คนเป็นEDITOR ส่วนมากชอบเป็นฟรีแลนซ์
แต่ฟรีแลนซ์ ก็จะมีปีญหาเรื่องอื่นอีกที

คำว่าให้โอกาสบางคน ก็แสนดีจริงๆ ให้เกียรติเราดี
แต่บางคนนะเอาคำว่า "น้องทำงานกับพี่นะ น้องก็ได้ประสบการณ์ มันมีค่ากว่าตัวเงินอีก" เจอคำนี้ไป คิดในใจว่า แต่เงินซื้อข้าวกินได้นะพี่ ประสบการณ์มันลดค่าใช้จ่ายไม่ได้นะพี่  

สมัยยังเป้นลูกจ้าง เข้าสู่วงการนี้ครั้งแรก  ต้องตัดรายการ  4 เทป / สัปดาห์  ออน ททบ.5  เค๊าว่า งานสบาย ง่ายๆ  จริงครับ  ง่าย สบาย และ เหนื่อยสุดทีน....แต่ก้สนุก...เพราะอยากทำ  แต่มันก้ช่วยฝึกให้เรา มาไกลได้จนถึงทุกวันนี้  อยากจะไปขอบคุณเค๊าด้วยซ้ำ แต่เราจบกันแบบไม่สวย  เพราะเจ้านายอารมณ์ร้าย เราก็อารมณ์ร้อน...เลยสนุกกันใหญ่...แต่ได้วิชามาเพียบ  พอออกมาถึงมารู้ทีหลังว่า  เค๊ารับตัดกันคนละ รายการ สองรายการเอง  เอาล่อ 4 รายการ  สนุกกันไป....

"น้องทำงานกับพี่นะ น้องก็ได้ประสบการณ์ มันมีค่ากว่าตัวเงินอีก"  `<<<< เจอบ่อยและไม่เคยรับสักที พอดีดันเป็นคนสนตัวเงินมากกว่าประสบการณ์  

ของผมนี่ไม่รู้ว่าหลอกใช้รึป่าวทำงานแทบตายเงินแทบมองไม่เห็น แต่ก็แลกกับวิชามาจนถึงทุกวันนี้
ผมขอเรียกตัวเองว่าลูกศิษฐ์ทรพีแล้วกันครับ เพราะจบไม่สวยจิงๆ

ก็ดูๆ กันไปครับว่าระหว่างเราทำงานเค้าปฏิบัติกับเรายังไง

บางงานผมได้เงินน้อย แต่เค้าเลี้ยงข้าวสอบถามความเป็นอยู่ ผมก้โอเค ดูๆ แล้วเค้าจริงใจ


แต่ถ้าพวกจับเสือมือเปล่านี่ส่วนมากให้ทำฟรีแล้วชอบพูดว่า "ทำเป็นพอร์ท"  แล้วก็มีการเร่งให้ส่งงาน  สั่งอะไรทำอย่างนั้น  แถมพอบอกว่าช่วยเลี้ยงข้าวเพื่อนๆ ท่เค้ามาช่วยทำฟรีๆ ก็ทำหน้าไม่ค่อยอยากจ่าย
อย่างหลังถ้าเจออะไรแบบนั้นผมไม่เอาเลยครับ

คนนอกวงการ มาช่วยมั่วความเห็น


สมัยผมเริ่มทำงานใหม่ๆ เคยทำงานอยู่โรงหล่อแห่งหนึ่ง งานก็หนัก เงินก็น้อย เดินโรงงาน กินฝุ่นทุกวัน ฯลฯ

แต่ก็ทำให้ผมได้"ประสบการณ์ชิวิต"มามากมาย ดูเหมือนจะมากกว่าตอนเรียนมหาลัยด้วยซ้ำไป



ขนาดงานที่ทำอยู่ทุกวันตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ประสบการณ์/ความรู้ความชำนาญ เท่ากับสมัยนั้นเลยด้วยซ้ำไป (ช่างปะไร ได้เงินเยอะกว่าเดิมนี่หว่า)

คงแล้วแต่Level ของแต่ละคน คนตัวเล็กๆประสบการณ์ยังน้อย วิ่งหาช่องทาง มีคนมาให้โอกาศหรือจะหลอกใช้ ก็ควรคว้ามันไว้ พอเลเวลสูงขึ้นไปอีกอยากได้ประสบการณ์หรือโอกาศที่สูงกว่าที่เรามีขึ้นไปอีก ก็ควรคว้ามันไว้ แค่เราไม่มองว่ามันคือการหลอกใช้ เปลี่ยนเป็นใช้คำว่า ประสบการณ์แทนตัวเงิน ถ้าเรายังต้องการความเข้าใจตรงกันก็ไม่น่ามีปัญหา และคงแล้วแต่ทัศนะคติของเราที่มีต่อบุคคลที่มายื่นโอกาศให้ด้วย  แล้วถ้าตอนนี้มีคนมาหลอกใช้ผมไปทำงานที่ฮอลลีวู้ด ผมก็ยินดีโดนหลอกใช้ครับ

เส้นมันบางมาก

เห็นด้วยกับคุณ "composecg" ครับ เลยอยากเสนอให้พวกพี่ๆน้องๆที่ต้องการประสบการณ์ ลองคิดบวกแล้วมองในอีกแง่มุมหนึ่งว่า หรือจริงๆแล้ว ผู้ที่ให้โอกาสเราต่างหากที่อาจถูกเราหลอก เพราะเราได้เข้าไปเรียนรู้และได้ทดลองทำเวอร์คช็อบฟรี อีกทั้งได้มืออาชีพจริงๆมาเป็นครูสอน  ผู้ที่ให้โอกาสเราเค้าต้องเสียเวลาสอนเราและยังต้องเสียงกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยที่เราไม่ต้องเสี่ยงหรือเสียเงินค่าเรียนสักบาท เราเอาแค่เวลาและความเหนี่อยของเราไปแลก ลองคิดดูนะครับถ้าเราต้องไปจ่ายเงินลงทะเบียนเรียนหรืออบรมเองในเซ็ตอัปแบบเดียวกัน ค่าเรียนจะสักเท่าไหร่  

อีกอย่างถึงแม้ว่างานที่เราทำฟรีนั้นเค้าจะได้เงินไปสักแสนสองแสนแต่มันก็จบเท่านั้นครับ แต่ความรู้ที่เราได้มานั้น อาจถูกนำไปต่อยอด ทำเงินให้เราอีกไม่รู้เท่าไหร่ และเค้าก็คงไม่ได้มาขอส่วนแบ่งของรายได้นั้นจากเรา

อันที่จริง เราได้ประโยชน์ของเรา เค้าได้ประโยชน์ของเค้า มองแบบนี้จะได้ไม่รู้ว่าใครหลอกใครครับ คิดแบบนี้อาจจะทำให้มีกกำลังใจก้าวต่อไปมากกว่าเยอะครับ "NO PAIN NO GAIN"

กำลังเขียนบทความ " ปรับตัวอย่างไร เพื่อต้อนรับสถานีใหม่( 42 ช่อง)
พอดีมีข้อมูลส่วนนี้ รวมอยู่ด้วย  ติดตามนะคับ

เป็นกระทู้ที่ให้ทั้งแง่คิดและกำลังใจมากๆเลยครับ :D

หัวกระทู้ ผมไม่ได้พูดถึง "ให้โอกาส" เลยครับ
คนที่ให้โอกาสแรกในวงการเบื้องหลังก็คือ ป้อม นาคพนม และ คุณชายอดัมแห่งฟุ๊คดุ๊คทีวีครับ
น้าป้อมชวนผมไปเป็นพิธีกรร่วมในรายการ "ซีเนเครซี่" รายการกึ่งเรียลลิตี้ ติดตามกองถ่ายหนังสั้นทุกขั้นตอน
http://fukduk.com/tv/1/1
คุณชายอดัม นอกจากอนุมัติให้ผมได้ร่วมรายการนี้ ต่อมายังได้ให้โอกาสผมได้ทำรายการเองเต็มๆตัว
http://fukduk.com/tv/6/15
ขอบคุณมากครับ

ปัจจุบัน ผมทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วแฮะ นอกจากงานสายนี้ ฮี่ๆๆๆๆๆ

   เพิ่มเติมคำว่า " การให้โอกาส " กับ " การถูกหลอกใช้"

   ในอดีตอุปกรณ์เครื่องมือราคาแพงมากๆ กล้องเบต้าตัวละ ล้านกว่า ใครจะเปิดห้องตัดต่อ
ต้องมีเงินไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาทขึ้นไป ฉนั้น ใครที่จะข้าวงการนี้ต้องยอม " ให้เขาหลอกใช้ "
เพื่อที่จะได้จับและได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆในการทำงาน
..แต่ในปัจจุบัน เครื่องมือราคาถูกลง ทำให้คนทำงานมีทางเลือก ถ้าไม่อยากให้เขาหลอกใช้
คุณต้องปรับตัว ฝึกฝนเรียนรู้ด้วยตัวเองจนเก่งและชำนาญให้เหมือนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
เรามีวิธีแนะนำ (ฝึกตัวเองให้เก่ง ) ดังนี้คับ.-

- หัดแกะงานเทพจากรุ่นพี่ คิดย้อนกลับให้ได้ว่า ใช้เครื่องมืออะไรถึงทำงานเทพออกมาได้ดีขนาดนี้
  แล้วลองหัดทำ หากทำไม่ได้ แสดงว่าทฤษฏียังไม่แน่น ควรเรียนรู้เพิ่มเติม ( หรือถ้าจะรับงานก็ไม่ควรทำงานใหญ่ )
- ในกรณีทำงานของตัวเอง ตัดครั้งแรกเก็บงานชิ้นนั้นไว้เป็นมาสเตอร์ ( เรารู้มีข้อบกพร่องแต่ลูกค้าอาจชอบ )
- ลองตัดครั้ง 2 โดยพยายามตัดให้ตรงข้ามกับครั้งแรก ( คิดใหม่ทำใหม่ )
  เช่น ครั้งแรกเอฟเฟคเยอะลดทอนลง, ช่วงนี้น่าเบื่อลองใส่กราฟฟิคเพิ่ม ฯลฯ
  ไม่แน่อาจได้ชิ้นงานใหม่ ที่เรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ ดูไม่น่าเบื่อ ( เปรียบเทียบกับตัดครั้งแรก )
- หรือจะนำชิ้นงานที่ทำครั้งแรกมาผสมกับชิ้นงานครั้งสอง ก่อเกิดชิ้นงานใหม่ที่ดีที่สุด
( พยายามให้มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด )

ถ้าวันนี้ ทฤษฏียังไม่แม่น ปฏิบัติไม่ชำนาญ แนะนำให้ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของบริษัทฯ( มีเงินทำได้ )
แล้วหาทีมงานมาทำงานแทนคุณ เปลี่ยนจากการ"ถูกหลอกใช้" มาเป็น"ให้โอกาส" จะดีกว่าไม๊คับ