ว่าด้วยเรื่อง ตั้งกล้อง สัมภาษณ์หมอ  ในโรงพยาบาล

ท่านใดเคยมีประสบการณ์ฺ ตั้งกล้อง สัมภาษณ์ ในสถานที่ราชการ หรือตามโรงพยาบาลมั้งครับ ว่า ต้องทำเรื่องขออนุญาตยังไงบ้างครับ  วันนี้ผมเข้าไปถามประชาสัมพันธ์ เขาถามผมว่ามาจากหน่วยงานไหน     ตัวผมไม่มีหน่วยงานไหน ผมทำอิสระ   ผมเลยจะลองเขียน        จดหมายขออนุญาตเอง  เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์ช่วยบอกหน่อยครับ   ส่วนตัวหมอที่ผมจะไปคุยด้วยเขายินดีอย่างยิ่งแต่ต้องทำเรื่องมาก่อน เพราะมันเป็นระเบียบ

ปกติเวลาไปสัมภาษณ์ก็ไปขออนุญาตสถานที่ตามปกติ
บางครั้งเป็นทีมอิสระก็ไม่ได้ทำเป็นหนังสือไป
ทางสถานที่เขาเช็คกับคนที่เรามาสัมภาษณ์ว่ามาสัมภาษณ์จริง สัมภาษณ์เรื่องอะไร ก็ผ่านแล้วค่ะ
บางที่เขาก็ขอให้ backgroud ติด logo เขา

แต่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรติดไปดีที่สุดค่ะ

วันนี้ผมไปติดต่อที่โรงพยาบาล เขาถามว่า มาจากหน่วยงานไหน  หรือมหาลัยไหน  ผมก็บอกไปเลยว่าไม่มี เขาก็  บอกว่าต้องทำเรื่องมานะ ผมเลยตัดสินใจว่าเอาหละ ผมจะเขียนเรื่องขอไปเลย ทำสคิปย่อๆให้เขาดู ว่าเราจะทำอะไรและทำไปเพื่ออะไร ถ้าเขาไม่ให้เพราะผมไม่ไม่มีหน่วยงานรองรับ ผมก็คงเหลือทางเลือกสามทางคือ
1คุยกับหมอขอเขาสัมภาษณ์ข้างนอก  
2ให้หมอช่วยคุยกับคนข้างใน
3ไปมหาวิทยาลัยที่ผมจบแล้ว เพื่อให้เขาออก เรื่องรองรับให้ว่าผมไม่ทำเสียหาย

อย่างที่ผมเคยทำนะ ถ่ายหนังในรพ. ทำหนังสือแจ้ง ขออนุญาตแค่นั้นเอง ทางรพ.ให้ความร่วมมือดีมาก ทั้งเซตและขอพยาบาลมาร่วมแสดงด้วย เรื่องทุกอย่างสะดวกและความร่วมมือดีมาก เพราะเป็นรพ.ในอำเภอ และอยู่ต่างจังหวัดด้วย ขออวยพรให้ทุกอย่างผ่านเร็วๆ นะครับ

ครับผม ผมจะลองเขียนขออนุญาตดู  ฮ่าาาา   พอมีแนวเขียนไหมครับ ผมไม่ถนัด

ผมเคยไปขอถ่ายทำชีวิตนักเรียนคนหนึ่งที่ต่างจังหวัด ไปจากบริษัทผลิตรายการชื่อดังเลยนะฮะ พ่อแม่เค้ามาสอบถามผมใหญ่ ขอเบอร์โทรฯ ขอเบอร์เจ้านายเบอร์บริษัทไว้หมด ผมก็ให้ไปแต่โดยดีพร้อมจดหมาย+นามบัตรครบ(ซึ่งเอาเข้าจริง ของพวกนี้ก็ทำปลอมได้หมด) ถ้าเป็นทีมงานถ่ายทำที่ถือตัวหน่อย ก็คงไม่พอใจที่เห็นพวกเราเป็นโจรขโมยหรือไงวะ แต่ผมก็มีลูกเหมือนกัน เลยเห็นใจเค้าน่ะฮะ สุดท้ายเค้าคงเห็นหน้าซื่อๆ ของผม เลยอนุญาติให้ถ่ายทำได้ นี่ขนาดแค่ครอบครัวเองนะครับ ยังระแวงขนาดนี้ ถ้าเป็นหน่วยงานสำคัญๆ ก็ยิ่งน่าวิตกมากขึ้น ต้องเห็นใจเค้าล่ะครับ เราเป็นใครมาจากไหน เค้าก็พิสูจน์ไม่ได้

อีกครั้งนึง คราวนี้ผมเองยังรู้สึกว่าไม่น่าอนุมัติ คือผมอยากเข้าไปนั่งในโรงเรียนประถม จะไปดูเด็กๆ ช่วงพักกลางวัน ว่าเค้าเล่นอะไรกันบ้าง แตกต่างจากยุคผมบ้างไหม เพื่อเป็นข้อมูลในการคิดงานที่จะทำชิ้นต่อไป ผมก็ทำจดหมายแนะนำตัวและบอกจุดประสงค์ชัดเจน แต่คราวนี้ผมไม่มีสังกัดแล้ว เพราะเป็นงานที่กะเอาไปเสนอต่อบริษัทต่างๆ ผมเอาจดหมายไปยื่นต่อผู้อำนวยการโรงเรียน ด้วยตัวเองพร้อมเล่าประวัติผลงานที่ทำมาของตัวเองยาวเหยียด ผอ.อ่านจดหมายไปด้วย แล้วตอบอย่างสุภาพว่าไม่สามารถอนุมัติได้เพราะเหตุใด ผมก็เข้าใจฮะ ก็ต้องอด Research อย่างที่ตั้งใจไว้

แนะนำว่า ปลายทางของงานที่จะถ่ายทำ สำหรับเผยแพร่ทางไหน เราก็ใช้หัวจดหมาย(ทำเอง) ของหน่วยงานที่เราจะเอางานไปเผยแพร่ เป็นหน่วยงานที่เราสังกัดก็พอได้นะครับ ให้อย่างน้อยเค้ารู้ว่าเราถ่ายทำไปให้ใคร แล้วเอางานไปใช้ทำอะไร ก็น่าจะพอได้ฮะ

เอาตัวอย่างจดหมาย(ที่เคยใช้ขอโรงพยาบาลของรัฐฯ) มาให้ดูเป็นตัวอย่างฮะ (ถ้าเปิดลิงค์ไม่ได้ เดี๋ยวส่งเมลล์ให้แล้วกันฮะ
[ตัวอย่างจดหมายขออนุญาต

เปิดไม่ได้ครับ ผม  เมลผม   hot.note@gmail.com  คุณมากครับ  

ผมจะทำพวกรายการแนวสุขภาพ เป็นเดโม่ของตัวเอง  เพื่อเอาไปเสนองานหรือไม่ก็สมัครงาน ครับ ถ้ามันไม่มีใครสนใจผมก็ทำลงยูทูปง่ายๆ   ผมเข้าใจหละว่าตัวผมนั้นไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร และ ไม่แปลกที่คนเขาจะสงสัยหรือกังวลกลัวผมทำเสียหาย     ผมไม่มีต้นสังกัดผมแต่ผมอยากทำให้ดีที่สุด  



เราก็ใช้หัวจดหมาย(ทำเอง) ของหน่วยงานที่เราจะเอางานไปเผยแพร่ เป็นหน่วยงานที่เราสังกัดก็พอได้นะครับ  
  หัวจดหมายหน่วยงานที่เผยแพร่   ผมไม่รู้จะเอาไปเผยแพร่ที่ไหนบ้างอะจิครับเพราะยังไม่รู้อนาคต่าใครจะสนใจ แต่เอาลงยูทูปแน่นอน    

อ้างอิง

อ้างอิงโพสต์2 ต้นฉบับโพสต์โดยhothoggเมื่อ2014-05-15 20:04เผยแพร่ :
วันนี้ผมไปติดต่อที่โรงพยาบาล เขาถามว่า มาจากหน่วยงานไหน  หรือมหาลัยไหน  ผมก็บอกไปเลยว่าไม่มี เขาก็  บอกว่าต้องทำเรื่องมานะ ผมเลยตัดสินใจว่าเอาหละ ผมจะเขียนเรื่องขอไปเลย ทำสคิปย่อๆให้เขาดู ว่าเราจะทำอะไรและทำไปเพื่ออะไร ถ้าเขาไม่ให้เพราะผมไม่ไม่มีหน่วยงานรองรับ ผมก็คงเหลือทางเลือกสามทางคือ
1คุยกับหมอขอเขาสัมภาษณ์ข้างนอก  
2ให้หมอช่วยคุยกับคนข้างใน
3ไปมหาวิทยาลัยที่ผมจบแล้ว เพื่อให้เขาออก เรื่องรองรับให้ว่าผมไม่ทำเสียหาย

ข้อ 2 ครับให้คุณหมอที่เราจะสัมภาษณ์คุยให้ จริงๆถ้าไม่ถ่ายนอกอาคารคือเฉพาะในห้องคุณหมอ
ก็สามารถทำได้เลยนะครับ หรือว่าคุณหมอไม่มีห้องส่วนตัวครับ

ที่ผมไปจะเข้าไปสัมภาษณ์เหมือนเป็นห้องทำงานเลยครับ หมอเขาเป็นที่ปรึกษา เรื่องสุขภาพครับ  หมอเขาบอกว่ายินดีเป็นอย่างมากที่จะให้ความรู้นัดมาได้เลยแต่ต้อง ทำเรื่องก่อนนะเพราะมันเป็นกฏในสถานที่ราชการครับ