เป็นคำถามที่ตอบยากมากครับ

เพราะใครถนัดโปรแกรมไหน... ก็ต้องเชียร์โปรแกรมนั้น... เป็นธรรมดา
ถ้าคุณ yai0007 ชอบ vegas ก็ใช้ vegas ให้เก่งไปเลยครับ ข้อดีของ vegas คือใช้ง่าย ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
พูดถึงเรื่องการตัดต่อ โดยหลักแล้วคือการนำไฟล์ vdo ที่ถ่ายเสร็จแล้ว มา "ตัด" แลัวเอามา "ต่อ (เรียง)" เข้าไว้ด้วยกัน
เพื่อให้เกิดความกลมกลืนเป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน ดังนั้นทุกโปรแกรมก็มีความสามารถเหมือนกัน
และทุกโปรแกรมก็มีการพัฒนา ออก version ใหม่ตลอดทุกระยะ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าโปรแกรมตัดต่อชื่อดังจะยังคงพัฒนาต่อไปครับ เรื่องนี้หายห่วง
เรื่องข้อจำกัดของแต่ละโปรแกรมเดี๋ยวนี้ทำได้ใกล้เคียงกันครับ ถ้าลองเล่นหลายๆโปรแกรมแล้วจะทราบครับ
ถ้าโปรแกรมที่เราใช้งานอยู่สามารถรองรับงาน vdo ที่เราต้องการทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนจากโปรแกรมหนึ่ง ไปยังอีกโปรแกรมหนึ่ง เพราะมีต้นทุนทางเวลาที่จะต้องเรียนรู้กับโปรแกรมใหม่
งานตัด-ต่อ เป็นคนละส่วนกับงาน special effect ดังนั้นถ้าต้องการ effect ให้กับ vdo มากเกินขีดความสามารถของโปรแกรมตัดต่อ
ก็ต้องหันไปพึ่งโปรแกรมเฉพาะทาง เช่น After effect
ซึ่ง vdo ที่ทำ special effect เสร็จแล้วก็นำมาตัดต่อบนโปรแกรมที่เราถนัดอยู่ดี
สรุปว่า ใช้โปรแกรม (แบบโปร นะครับ) ที่เราถนัดให้เก่งไปเลยดีที่สุดครับ
ปล. อยากถามว่า vegas มีอนาคตมั้ยใช่มั้ยครับ?
- มีแน่นอนครับ มากด้วย เพราะ engine ของ version 9 ที่เรากำลังใช้อยู่ ก้าวหน้าไปหลายปีเลยล่ะครับ
รู้ได้อย่างไร? ผมดูที่ project properties ครับ , มี project ขนาด 2k และ 4k คือ project สำหรับโรงภาพยนตร์