สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 34167เข้าชม
  • 9ตอบกลับ

การเขียนบท 2.1 โครงสร้าง

โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

คราวที่แล้วเราค้างกันที่เรื่อง plot นะครับ plot คือเรื่องของโครงสร้างครับ เหมือนนกับเราสร้างบ้านครับ โครงสร้างไม่ดีต่อให้รายละเอียดสวยงามแค่ไหนมันก็พังครับ

งั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าโครงสร้างใน plot มันคืออะไร

โครงสร้าง Structure

    หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าองก์ (Act) กันนะครับ ในกระบวนการเขียนบทภาพยนตร์ หรือ เขียนนิยายอะไรก็แล้วแต่ โดยทั่วไปการสร้างเรื่อง มักแบ่งเป็นสามองก์ ก็คือ ต้น กลาง และจบ เดี๋ยวเราจะมาดูกันต่อว่า แต่ละส่วนมันทำงานยังไงนะครับ

องก์ที่ 1 (Act 1)
จะเป็นเรื่องของการปูพื้นสร้างบรรยากาศ วางพื้นฐานให้แก่เรื่องราวนั้นๆ แนะนำตัวละครแต่ละตัวที่จะมามีบทบาทต่อไป โดยทั่วไปมักจะยาวประมาณ 1 ในสี่ของเรื่อง (ปัจจุบันมีคนบอกว่า ความอดทนของคนดูสั้นลง ส่วนนี้จึงถูกปรับให้น้อยลงตามไปด้วย)  
การจบองก์ก็มักจะจบด้วยจุดหักเห เราเรียกกันว่า plot point ที่ 1 มันคือจุดที่แสดงให้เห็นพล๊อตนั่นเอง... งงกันอีกแล้ว!?  งั้นเรามาดูตัวอย่างกัน เอาเรื่องอะไรดี…

สมมุติว่าเป็นหนังเรื่อง ID4เปิดเรื่องมาเราจะเห็นการเปิดตัวละครมากมายเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขา จนกระทั่ง มนุษย์ต่างดาวได้มาเยือน การมาถึงของมนุษย์ต่างดาวนี่และครับ และลำแสงตูมนั้นแหละครับ คือ plot point ที่ 1 ถ้าย้อนกลับไปที่ตอนที่เราวาง  log line จะเห็นว่านี่คือส่วนสำคัญที่จะอยู่ใน log line ของเราด้วย  มันคือจุดหักเห มันเป็นจุดที่จะทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไป ทำให้คนดูอยากรู้ว่า เอ๊า... แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไปฟะเนี่ย....  


ทีนี้ก็มาถึงองก์ที่ 2 กันบ้าง

องก์ที่ 2 (Act 2)
ส่วนนี้คือส่วนของการดำเนินเรื่อง เป็นช่วงของการเผชิญหน้า การวางปมปัญหาเป็นส่วนที่ยาวที่สุดในหนังครับโดยประมาณก็คือ 2.5 ใน 4 ของเรื่อง  และเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการน่าเบื่อเป็นที่สุด  และแน่นอนว่าในการเขียน นี่คือส่วนที่เขียนยากที่สุดเช่นเดียวกัน

ในบทที่เรียบง่ายที่สุด  ถ้า plot point ที่ 1 คือการวางปมปัญหาใหญ่  การดำเนินเรื่องในองก์ที่ 2  มักจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาใหญ่นั้น แต่การแก้ปัญหาใหญ่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเล็กๆตามมา ต้องตามแก้กันไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็แก้ปัญหาใหญ่นั้นไม่ได้ซักที  พร้อมกับการชนตอทุกด้าน  ตรงนี้จะเกิดจุดหักเหขึ้น  เป็นจุดที่เราเรียกกันว่า
plot point ที่ 2  เช่นตัวละครของเราพบวิธีแก้ปัญหานั้นแล้ว... แต่ทว่าเวลากำลังจะหมด....อา า า...ทำไงดี ต้องแข่งกับเวลาด้วย ส่วนหลังนี้แหละครับ ที่เป็น plot point ที่ 2   มันทำให้เราอยากรู้เรื่องต่อไป อยากเดินหน้าต่อไป เพื่อก้าวเข้าสู่องก์ที่ 3 ที่เรียกกันว่า จุดสูงสุดทางอารมณ์ (climax)
ตัวอย่างเดิมครับเรื่อง ID 4
หลังจากที่มนุษย์ต่างดาวได้ทำลายโลกไปส่วนหนึ่งแล้ว ผู้คนก็พยายามหาวิธีโต้กลับ (นี่เป็นพล๊อตหลักนะครับ อย่าลืมว่า ในหนังเรื่องนี้มีพล๊อตย่อยอีกเป็นจำนวนมาก เช่น เรื่องของเดวิดกับภรรยา  การตามหากันของตัวละครของ วิล สมิธ การดูแคลนความสามารถของประธานาธิปดี  การพยายามพิสูจน์ตัวเองของชายพ่นยากำจัดแมลง และเรื่องการเปิดเผยของ แอเรีย 51 ซึ่งถือว่าเป็นมุขเด็ดในหนัง)
จนแล้วจนรอด ก็ยังเอาชนะมนุษย์ต่างดาวไม่ได้ซักที จนทุกคนเกิดความท้อแท้ และสิ้นหวัง และก้มหน้ายอมรับชะตากรรม  จนกระทั่ง เดวิด ได้พบวิธีปลดเกราะของมนุษย์ต่างดาวได้โดยบังเอิญ  และรู้ว่าจะจัดการกับมนุษย์ต่างดาวอย่างไร...แต่มันจะเป็นไปตามนั้นมั๊ย ต้องติดตามกันต่อในองก์ที่ 3 ครับ

องก์ที่ 3 (Act 3)
climax และบทสรุป...
นี่คือส่วนที่สั้นที่สุด และจะเป็นส่วนที่ต้องสนุกที่สุดของหนัง ความยาวของมันก็แค่ 0.5 ใน 4 ส่วนของบทหนัง  ทางออกสุดท้ายของตัวละครและเรื่องราวของคุณจะถูกนำเสนอในช่วงนี้ หน้าที่ของคนเขียนก็คือต้องทำให้คนดูลุ้น ตื่นเต้น และประทับใจไปกับตอนจบของเรื่องราวให้ได้  และถ้าจะมีการหักมุม หรือการตบหน้าคนดู มันจะเกิดขึ้นในช่วงท้ายนี้แหละครับ ในองก์นี้คนดูจะได้เห็นผลของความพยายามทั้งหมด ในการแก้ปัญหาของตัวละคร  และพบกับบทสรุปของเรื่องราว ( resolution )

แต่อย่าให้ความสำคัญกับส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไปนะครับ เราควรจะให้ความสำคัญกับทั้งสามส่วน เพราะมันไม่สามารถอยู่โดยแยกจากกันได้

นี่เป็นหลักการวางพล๊อตของหนังสั้นขนาดยาว หรือหนังยาวเท่านั้นนะครับ  มันไม่สามารถใช้กับหนังสั้นที่สั้นกว่าหนัง 10 นาทีได้ เพราะมันจะทำให้เรื่องของคุณยาวจนเกินไป
ในตอนหน้า เราจะมาว่ากันถึงเรื่อง การเขียน หนังยาวและหนังสั้นต่างกันอย่างไร

สำหรับตอนนี้จะสรุปให้แบบชัดๆว่า

องก์ที่ 1 = เปิดเรื่อง สร้างโลก ปูพื้น และ ปมปัญหา
องก์ที่ 2 = ดำเนินเรื่องการเผชิญหน้า และทางออก ของปมปัญหา
องก์ที่ 3 = climax  การแก้ปมปัญหา และบทสรุป


ความต่างกันของหนังสั้นและหนังยาวในส่วนของเรื่องที่เราได้พูดกันไปแล้ว คือ theme,  log line และ plot นั้น

Theme กับ Logline ยังเป็นสิ่งที่ต้องมีเหมือนกัน ไม่ว่าเราจะเล่าเรื่องยาวเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต่างกันจริงๆจะเป็นในแง่ของโครงสร้างครับ

ผมเคยประสบปัญหานี้มาเหมือนกัน คือผมพยายามเขียนบทหนังสั้นโดยใช้หลักการ 3 องก์ ผลที่ออกมาคือ หนังของผมมันไม่ยอมสั้น เขียนยังไงก็ไม่เคยต่ำกว่า 15 – 30 หน้า แต่ก็ยังพยายามเขียนอยู่ มันก็ยังดูเป็นเรื่องสั้นที่เยิ่นเย้ออยู่ดี  จนวันหนึ่งผมได้อ่านบทความชิ้นหนึ่ง เป็นบทความของโรเบิร์ต ดอริเกวซ ผู้กำกับ เอล เมอร์รัชชี่ และเจ้าของตำนาน เดสเพอราโด เขาบอกไว้ว่า “หนังสั้นคือการปูพื้นแล้วก็ตามด้วยการหักมุม” ซึ่งคำว่าหักมุมในทีนี้อาจจะตีความได้อีกว่า “เริ่มเรื่องแล้วเข้าสู่จุดวิกฤติเลย” เป็นการนำเสนอ Theme ของเรื่องอยากรวดเร็ว ถ้านึกภาพไม่ออก ลองเปิดโทรทัศน์แล้วดูโฆษณา ดูแบบที่เป็นเรื่องนะครับ แล้วเราจะเข้าใจประเด็นนี้  

ที่เอ่ยมาคือหลักการง่ายๆที่อยากลองให้เอาไปใช้กันดู

  
ทิ้งท้าย....หลายคนเคยบอกผมว่า พล๊อต คือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร สำหรับผมอันนี้คือ Log line ครับ สำหรับ plot เราต้องเห็นทั้งหมดของเรื่องราวแล้วครับ


การบ้าน

1.    เหมือนเดิมครับ ดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ แล้วลองแยกแยะโครงสร้างให้ออกมาเป็นองก์และหา plot point ของหนังเรื่องนั้นครับ
2.    ให้คุณลองเขียนพล๊อตจากเรื่องที่คุณคิดเอง เอาเป็นพล๊อตเบสิคง่ายๆก่อนก็ได้ครับ จะได้เข้าในโครงสร้างขององก์ และถ้าให้ดี หา theme และ Log line มาประกบด้วยก็ดีนะครับ

ใครที่นึกสนุกทำการบ้านของผมจริง ก็โพสต์กันได้ในกระทู้นี้นะครับ

  • รูปภาพ:MovieDiy7(1).jpg

บทความที่เกี่ยวข้อง

ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
369
เงิน
10013
ความดี
8199
เครดิต
8313
จิตพิสัย
9992
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ซี โซนิค อยู่แถวบ้านผมนี่เองเหรอ บ้านผมอยู่แถวโรงแรมอินคำครับ
โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ใกล้มากมายครับ เดินเอายังถึง
ด้วยความเคารพ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ
โพสต์
1226
เงิน
27006
ความดี
26182
เครดิต
27224
จิตพิสัย
24655
จังหวัด
* ต่างประเทศ *

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-10
สุดยอดครับ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ

น่าจะทำกระทู้รวมบทความคุณ foolmoon นะครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
221
เงิน
7782
ความดี
5272
เครดิต
5353
จิตพิสัย
6291
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-13
ความรู้ดีๆ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
273
เงิน
8194
ความดี
6242
เครดิต
6022
จิตพิสัย
8258
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-19
ขอเป็นสาวกคุณ foolmoon ด้วยคนครับ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
33
เงิน
1866
ความดี
805
เครดิต
851
จิตพิสัย
680
จังหวัด
ภูเก็ต
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-19
ได้ความรู้สุดยอดเลยครับ   ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
369
เงิน
10013
ความดี
8199
เครดิต
8313
จิตพิสัย
9992
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-19
คุณ foolmoon เป็นเจ้าของ ซีนโซนิค ที่อยู่ลาดพร้าว 112 ใช่เปล่าครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
307
เงิน
8550
ความดี
7740
เครดิต
7517
จิตพิสัย
8575
จังหวัด
กาญจนบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-20
ฟูลมูล
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้