วันนี้ขอมาแนะนำหนังและผู้กำกับภาพในดวงใจของผมนะครับ
โดย 5 เรื่องผมจะคัดจากความสมบูรณ์ของการถ่าย สื่อความหมาย และที่สำคัญ แคปมาภาพเดียวก็บอกได้ว่ามาจากหนังเรื่องนี้ครับ
เริ่มกันเลยดีกว่า
2001 : a space odyssey : DOP - Geoffrey Unsworthได้รับการโหวตจากทุกสำนัก ว่าเป็นสุดยอดหนังไซไฟยอดเยี่ยมตลอดกาล และเป็นหนังอันดับหนึ่งในดวงใจของผมครับ
ผู้กำกับ แสตนลีย์ คูบริก ใช้บทสนทนาน้อยมาก และคำพูดในแต่ละคำพูดดูแข็งๆ เพื่อสื่อว่า มนุษย์ในอนาคตนั้น ไร้จิตวิญญาณเสียยิ่งกว่าหุ่นยนต์!!
หนังใช้อัตราส่วน 2:35:1 ได้อย่างเต็มที่ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล (อันนี้ ต้องดูในโรงเท่านั้นจึงจะได้พลังของภาพเต็มที่)
แถมสมจริงในเรื่องความถูกต้องของวิทยาศาสตร์(ตอนนั้นมนุษย์ยังไม่ไปดวงจันทร์เลย) สิ่งที่น่าจดจำอีกอย่างคือ Specail Effect ทำเมื่อ 45 ปีที่แล้ว!!
ที่สำคัญ....ภาพกับเพลง Blue Danube คลอกันไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
Schinder's List : DOP - Januzt Kaminskyผู้กำกับภาพคู่บุญของสตีเวน สปีลเบิร์ก "จานุซ คมาร์มินสกี้" เลือกถ่ายทอดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวออกมาด้วยฟิล์มขาว-ดำ ถึงแม้หนังออกจะเมโลดราม่าไปใน -
แบ่งขั้วชัดเจนระหว่าง ขาว-ดำ มีบทพูดที่สั่งสอนคนดูบ้าง -
แต่สิ่งที่สุดยอดที่สุดคือการคุมโทนในเรื่องของรายละเอียดของประวัติศาสตร์ และการที่จงใจเลือกใช้คนที่มีชีวิตอยู่มาบอกเล่าความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำด้วยกันเอง
ช็อตที่น่าจดจำที่สุดคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ในชุดสีแดง เดินผ่านการฆ่ายิวในเมือง
INNOSENCE : DOP - Benoît Debieหนังเรื่องนี้ผมไปเดินหาหนังแปลกๆ ดูในฟอร์จูน แล้วเห็นหน้าปกน่าสนใจดี เลยลองซื้อมาดู
ผู้กำกับเรื่องนี้เป็นผู้หญิื่ง ชื่อ
Lucile Hadzihalilovic (อ่านไม่ออก ขออภัย) ซึ่งเธอเป็นนักวิจารณ์และทำหนังเรื่องนี้ครั้งแรกสิ่งที่ผู้กำกับภาพเลือกใช้คือสีโทนอุ่นๆ ของหลอดทังสเตน และสีน้ำเงิน สีเขียว เพื่อเล่าเรื่องของกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ส่งมาอยู่ในป่าเพื่อทำอะไรสักอย่าง อารมณ์ของหนังจะออกแนวลึกลับ สดใส น่ากลัว และเศร้าๆ (ต้องหามาดูเอง) สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการค่อยๆ เผยรายละเอียดและคลายปม (แต่ไม่ทั้งหมด)
THE FALL : DOP - Colin Watkinsonหนังเรื่องนี้เป็นหนังอินดี้ ใช้ทุนแค่ 2 ล้านเหรียญ กำกับโดยผู้กำกับโฆษณาและ MV ชื่อดัง Tarsem Singh (เคยกำกับเรื่อง The Cell) เขาเลือกถ่ายเรื่องนี้ใน 23 ประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือ "ใช้ศักยภาพของภูมิประเทศ" ได้ยอดเยี่ยม หนังเรื่องนี้ไม่มี CG สร้างฉากเลยแม้แต่น้อย (มีแค่ลบเสาไฟกับเชื่อมฉาก)
หนังออกมาน่ารัก ทรงพลังและกิจใจสำหรับผมมาก (พูดถึงเรื่องการเยียวยากันและกัน)
สุดท้าย
THE GODFather : DOP - Gordon Willis ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ใครๆ ก็ต้องร้องอ๋อ จึงไม่ขอเล่าอะไรมากมายละกันครับ เพราะสมบูรณ์แบบในทุกๆ ทางตั้งแต่ "บท" จนไปถึง "อิธิพล" ต่อหนังมาเฟียรุ่นหลัง
หนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดในเชิงการกำกับภาพ เพราะฮีโร่ของผม กอร์ดอน วิลลิสนี่ ได้ชื่อว่าเป็น "เทพแห่งความมืด" หนังที่เค้าจัดแสงส่วนมาก
จะเน้นไปทีคอนทราสแสงสูงๆ (ดำจัด สว่างจั วิลลิสเรียกว่าแสงแบบ แรมบลังค์)
การจัดแสงนี่พิธีพิถันมากในการวางคอนทราสแสงกับนักแสดง คุมโทนคาแร็กเตอร์ให้ออกมาดูขลังและน่ากลัวได้พร้อมๆ กัน
ส่วนตัวผมชอบดูหนังถ่ายภาพสวยๆ เน้นการแสดงและบทมากกว่า "อัดซีจี" จนเฝือครับ
ผมเองก็อยากรู้ว่า หนังในดวงใจของแต่ละคนมีเรื่องอะไรมั่งครับ ไม่จำเป็นต้องภาพสวยก็ได้
[ แก้ไขล่าสุดโดย impeus เมื่อ 2011-03-11 13:22 ]