หวัดดีคับ..เห็นหลายเมล์บ่นเรื่อง ค่าจ้างที่ได้น้อยลงแต่ต้องทำงานมากขึ้น รวมถึง คู่แข่งที่มีมากขึ้นด้วยแถมตัดราคากันเองอีก สมัยก่อนไปถามคนจีนว่า มีเคล็ดลับอะไรที่ค้าขายแล้วรำ่รวย คนจีนเขาบอก " แค่เปิดร้านก่อนคนอื่น และปิดร้านหลังคนอื่น เท่านั้นเอง "
แต่ปัจจุบันทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะ เซเว่นเปิด 24 ชม.( หมายความว่า ทำงานใช้แต่แรงไม่ได้แล้ว ต้องใช้สมองทำงานด้วย )
นับแต่วันนี้ไป ไม่ต้องกลัวแล้วคับ เ
พราะผมมีคาถาเรียกเงินสำหรับพี่ๆที่ทำงานโปรดัคชั่นโดยเฉพาะ " ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา "( 8 คำจำจงดี)ผมเรียกของผมเองว่าคาถาเรียกงาน และยังใช้มาถึงปัจจุบันนี้.. ( ความลับนะเนี่ย ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน )
1. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา " เพราะ เรามีหลักในการทำงาน " หลายๆคนในโปรดัคชั่นที่ก้าวขึ้นมาแนวหน้า เพราะครูพักลักจำ ก้าวจากตำแหน่งน้อยๆ
จนขึ้นมายืนแนวหน้า หรือน้องใหม่เพิ่งเรียนจบ หลักที่เรียนทฤษฏีกับหลักปฏิบัติไม่เหมือนกันนะคับ อยากให้อ่านบทความที่ผมเขียนจากการทำงานจริงๆ
ท่องจำจนขึ้นใจ กลัวลืมก็เขียนเป็นข้อๆเก็บไว้ แล้วพยายามทำตามให้มากที่สุด หลักปฏิบัติคือการทดลองซำ้ๆหลายครั้ง แล้วประเมินสรุปออกมาว่า
วิธีนี้ดีที่สุด มีประสิทธิผลมากที่สุด ใช้เวลาในการทำงานน้อยที่สุด จึงเขียนเป็นหลักให้ปฏิบัติ ..ช่างภาพหลายคน ไม่จำภาพที่ถ่าย ...ไม่มีคอนตินิวของเหตุการณ์
คนตัดก็ตัดไม่ได้ หรือเห็นภาพนั้นๆจนเบื่อ " มันถ่ายอะไรของมันวะ ภาพนี้มีเกือบทุกซีน " ใครไม่เคยอยู่ห้องตัดต่อไม่รู้หรอกคับว่า เวลาคนตัดกับโปรดิวเซอร์
ดูงานของช่างภาพที่ถ่ายแบบไม่จำช็อต ถ้าคุณอยู่ด้วย คุณจะเห็น สัตว์ต่างๆเลื้อยเต็มห้องเลยนะคับ..
2.. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา "เพราะเราทำงานเต็มที่ เมื่อใดที่ยังมีเวลา เราก็ทำงานของเราให้ดีที่สุด " หมายความว่า บางกรณีที่เราไปร่วมงานกับทีมงาน
ที่ยังไม่แกร่ง เขาอาจสั่งทำแค่นี้ เพราะเขารู้แค่นี้ แต่อยากให้ทำเพิ่มเท่าที่เรามีเวลา เช่น ไปถ่ายสารคดีจุดนี้ แล้วจะย้ายไปอีกจุดในอีก ครึ่งชั่วโมงหน้า แต่ตอนนี้
เรายังมีเวลาก็อยากให้ถ่ายไปเรื่อยๆ.. ช็อตพื้นฐาน ..ช็อตเรียกค่าตัว.. ช็อตแปลกพิสดาล ..ช็อตหายาก.. ช็อตขยัน.. ช็อตที่ไม่มีใครกล้าถ่าย ฯลฯ.. ข้อดีคือ
ทำให้เราสามารถลองงานต่างๆที่เราอยากทำ หากออกมาไม่ดีเขาคงไม่ว่า แต่ถ้าเกิดออกมาดี จะเป็นการเพิ่มคุณค่าความสามารถในตัวเรามากขึ้น ( ค่าตัวขึ้น )
อย่าลืมนะคับว่า งานของเรานอกจากจะผ่านตาโปรดิวเซอร์คนนี้แล้ว ยังผ่านตาห้องตัดต่อ ( พนักงานตัดต่อ ) ผ่านตาลูกค้าที่มาตัดต่ออีก หรือผ่านตาโปรดิวเซอร์
รายการอื่น เกิดเขาเห็นงานที่เราถ่ายมา โหสวยสุดยอด เขาก็จะบอกต่อๆกันไป ( ถ้าผลงานดีก็สบาย แต่ถ้าถ่ายมาห่วยก็จะยิ่งบอกต่อๆกันเร็วขึ้น )
3. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา " เพราะเราช่วยเหลือห่วงใยให้ความรู้เพื่อนร่วมงาน " คนในวงการยังจำกัดอยู่ไม่หลากหลาย จึงมีน้องใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น
หลายครั้งที่น้องเขาสั่งงานแบบผิดๆ เพราะความรู้ไม่ถึง ก็ทำตามที่เขาบอกไปก่อน แล้วค่อยเสริมความรู้ให้น้องเขาเข้าใจ แต่ระวังจะไปกดดันเขานะคับ ค่อยๆบอก
ถ้าเขายอมรับก็โอเค ช่วยๆกันไป แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร เรามีหน้าที่เพียงแค่บอกแนะนำเท่านั้น ส่วนเขาจะเชื่อไม่เชื่อเรื่องของเขา และเมื่อน้องใหม่กลับไป
ออฟฟิศทำงานส่วนตัดต่อ แล้วเห็นความผิดพลาดของงานที่เขาทำ แล้วเกิดมาใช้ฟุตเตสงานที่เราทำเสริม ( แนะนำแล้วเขาไม่เชื่อ )เขาจะคิดถึง( บุญคุณ เรา ) ที่
ช่วยเขาไว้ ต่อไปเขาก็จะเรียกใช้แต่เรา แถมชวนๆเพื่อนให้มาใช้บริการเราด้วย ( มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำตัว )
4. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา " เพราะเราสร้างสรรค์งานเกิน 100 เกินความคาดหวังของลูกค้า " อย่างเช่นลูกค้ามี 100 บาทแต่เราทำงานออกมาเหมือน 300 บาท
ไม่อยากให้เราคิดแต่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว เอาเป็นว่าถ้าพอดีช่วงนั้นว่างไม่ได้ทำอะไร งานของลูกค้ายังไม่ถึงกำหนดส่ง พอมีเวลาเหลือ ก็ลองทำปรับแก้เพิ่มให้ดีขึ้น
ถามตัวเองตลอดเวลาว่า ทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ไหม เหมือนเป็นการท้าทายให้กับตัวเอง เป็นการลองสิ่งใหม่ๆให้กับตัวเรา ได้ศึกษาค้นคว้าและลูกค้าก็ได้งานดีขึ้นด้วย
5. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา "เพราะเรามีความรู้มากกว่าคนอื่น " ถ้าว่างและไม่มีงานทำ เกิดมีงานติดต่อเข้ามา งบอาจน้อยก็ไม่เป็นไร ไปทำเถอะ อาจกระซิบบอกเขาว่า
ราคานี้พี่อย่าไปบอกใครนะ ทำให้พี่คนเดียว บางครั้งก็สงสารลูกค้าเหมือนกันนะ อย่างงานที่เขาถ่ายเก็บไว้ดูเฉยๆไม่ได้เอาไปประกวดทำอะไร มีงบเท่านี้จริงๆ ถ้าว่าง
ก็ทำไปเถอะ ทำอย่างดีเท่าที่เวลาเรามี ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ยิ่งรู้จักคนมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะมีงานในอนาคตก็มากขึ้นเท่านั้น ( งานนี้ไม่มีงบ งานหน้าอาจมีงบไม่จำกัด )
6. ทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกเรา " เพราะเราทำงานได้หลากหลาย " จำเป็นมากสำหรับปัจจุบันนี้ คุณต้องทำได้หลายๆอย่าง เช่น ช่างภาพ , โปรดิวเซอร์ , กำกับ , ตัดต่อ ทำกราฟฟิค
อยากให้คุณทำได้หลายๆอย่าง เพราะบางครั้งก็เสียดายลูกค้าเหมือนกันนะ เป็นช่างภาพถ่ายเสร็จให้ลูกค้าไปตัดกับเจ้าอื่น สุดท้ายลูกค้าไม่หวนคืนกลับมาที่เรา
เพราะลูกค้าเกิดไปติดใจฝีมือเจ้าอื่นเข้า ทำได้หลายอย่าง แรกๆไม่เก่งไม่เป็นไร ทำบ่อยๆจะเก่งเอง วันนี้มีคิวถ่ายก็ไปถ่าย พรุ่งนี้ว่างก็ตัดต่อ คนอื่นตัดวันเดียวเสร็จ
เราตัด 3 วัน ช่างมันอย่าเพิ่งท้อ ดีกว่าอยู่บ้านฟุ้งซ่านเปล่าๆ เพราะยังไงเราก็ว่างอยู่แล้ว ทำงานได้หลากหลาย มีลูกค้าติดต่อมาเราก็รับงานได้มากขึ้น ไม่ใช่เก่งแค่ช่างภาพ
พอไม่มีงานช่างภาพ ก็ว่างตลอด เทียบกับพี่ๆคนอื่นเขาทำได้หลายอย่าง ก็รับงานได้หลายวัน ..( อยากเก่งต้องรีบฝึก )
...ทุกวันนี้ผมก็ถูกพี่ๆในวงการต่อว่า ว่าเอาความลับในวงการมาเปิดเผย ทำให้น้องใหม่เก่งมีความสามารถ และก็เข้ามาในวงการมากขึ้น
แล้วก็มาแย่งงานของพี่ๆไปทำ แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้นผมว่าอยู่ที่กลุ่มลูกค้าของแต่ละคนที่มีมากกว่า อย่างเช่นงานแต่งงานคนอื่นรับ 3 พัน
ผมลองตลาดบอกผมถ่ายงานแต่งงานคิดแค่ พันเดียว ลูกค้าเดินหนีหมด ผมว่าที่เรากระทบจริงๆก็คือ ความก้าวหน้า ความทันสมัยทางเทคโนโลยี ต่างหาก
แต่ก่อนเครื่องมือไม่ไฮเทค งานที่ออกมาดีเพราะใช้ฝีมือแรงงานโปรล้วนๆ..แต่ปัจจุบันงานที่ออกมาดูไม่ออกเลยว่า ใช้ฝีมือหรือใช้เครื่องมือกันแน่ ที่ทำให้งานออกมาดี
พี่ๆบางคนยังแซวเลย หลับตาถ่ายก็สวย ( เพราะมีโปรแกรมสำเร็จรูปมากมาย ถ่ายมาเสียก็แก้จนดีได้ )
นับแต่นี้ต่อไป พี่ๆไม่ต้องกลัวไม่มีงาน เพราะเรารู้ความลับของอาชีพฟรีแลนซ์ ( คาถาเรียกงาน )คาถาเรียกงานยืนยันว่าใช้ได้จริงให้ท่องทุกวันก่อนทำงาน วันละ 2 ครั้ง แล้ววันหนึ่ง ..
". คุณจะมาตะโกนบอก ..ลูกค้าคับ ..กรุณาไปใช้โปรดัคชั่นอื่นบ้าง ผมจะตายอยู่แล้วคับ "
บทความที่เกี่ยวข้องกัน คลิกเลย.." รักฟรีแลนซ์ คิดผิดคิดใหม่ ".. น้องใหม่รักฟรีแลนซ์อยากให้อ่าน..วิธีหาลูกค้าเพิ่ม ( ยอมเหนื่อยในวันนี้เพื่อสบายในอนาคต)[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2012-05-19 16:08 ]