หวัดดีคับ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโปรดัคชั่น แม้เราจะระมัดระวังมากแค่ไหนปัญหาก็คงเกิดอยู่ดี
..วิธีการป้องกันความเสียหายจากการทำงาน ( โดยส่วนตัวนะคับ ) ผมขอเรียงลำดับความสำคัญ และที่ถูกที่ต้องทำ
( ก็คือการสำรองข้อมูลไว้ 3 ขั้นตอนทุกครั้ง) หาวิธีการที่เหมาะกับตัวของคุณเอง เพราะมีปัจจัยคือเงินที่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
... ( บทความนี้อิงจากหลักในการเก็บฟุตเหมือนระบบเทปเดิมนะคับ)วิธีที่1.
ซื้อเครื่องเขียนแผ่นDVD ที่เขียนได้ในระบบไฮเดฟ หมายความว่า เราสามารถก๊อปฟุตลงแผ่นดีวีดีได้โดยตรงจากการ์ดที่ถ่าย เล็ก กระทัดรัด
เหมาะที่จะนำออกนอกสถานที่ได้
http://www.somkiet.com/AudioVideo/DVDirect-MC6.htm ( ราคาประมาณ 10,000 บาท )
ข้อดี คือ คุณสามารถเก็บฟุตเป็นแผ่นดีวีดีเดี๋ยวนั้นได้เลย ไม่ต้องโหลดผ่านคอม พกพาออกนอกสถานที่ได้ ช่วยแบ่งเบาภาระตัวกล้องและเครื่องคอมได้
และถือเป็นการสำรองที่ดีที่สุด ทำเสร็จปั๊บโหลดเก็บเป็นแผ่นเข้าแฟ้ม ทำสำเนา 2 ชุด ( เหมือนมีต้นฉบับมินิดีวีแบบเดิม ) แล้วควรแยกเก็บไม่รวมกัน
อาจไว้ลูกค้าชุด เราเก็บชุด และตัวการ์ดมาสเตอร์ก็ยังไม่ควรลบ ควรนำติดตัวกลับมาเข้าคอมที่ออฟฟิศ (สำรอง 3 ขั้นตอน แผ่นดีวีดีที่ถ่ายแล้ว ,
ตัวการ์ดถ่ายที่ยังไม่ลบ, โหลดเก็บใส่คอม ) กรณีที่ไม่มีเคร่ืองเขียนแผ่นไฮเดฟ เราก็สามารถสำรอง 3 ขั้นตอนได้เหมือนกันคือ เก็บการ์ดที่ถ่าย,
โหลดเก็บใส่คอม, แล้วควรไลท์แผ่นฟุตถ่ายทั้งหมดเป็นแผ่นดีวีดีจากคอมในตอนหลัง กรณีมีการ์ดจำกัดคุณอาจใช้โน๊ตบุ๊คเก็บเป็นขั้นตอนแรกก่อน
แล้วค่อยกลับมาทำให้ครบ 3 ขั้นตอนในภายหลัง ส่วนสำคัญที่ไม่อยากให้คุณมองข้ามในขั้นตอนนี้ก็คือ การก๊อปฟุตลงคอมฯ ควรทำในวันนั้นเลย
ห้ามทำพรุ่งนี้โดยเด็ดขาดสำคัญนะคับ ไม่ว่าคุณจะกลับมาดึกแค่ไหน เหนื่อยสายตัวแทบขาดขนาดไหน ต้องทำๆ เหตุที่บอกก็เพราะหากเกิดความ
ผิดพลาด เช่น การ์ดหาย เมื่อเรากลับมาแล้วหาไม่เจอ เราจะได้รีบติดต่อหาสาเหตุไล่ขั้นตอนทีละจุดได้ บางคนยังอยู่สถานที่ถ่ายทำยังไม่ได้กลับ
อาจช่วยคุณแก้ปัญหาได้ทันท่วงที และบางคนเพิ่งกลับ เราอาจถามไถ่หาข้อมูลเพิ่ม ทุกคนยังจำได้ไม่ลืม แต่ถ้ารอถึงพรุ่งนี้ ปัญหาอาจแก้ไขไม่ทัน
วิ
ธีที่2. ซื้อเครื่องแปลงจากHDMI out ออกเป็นsvideo / av แล้วไปต่อเข้ากับเครื่องอัด DVD ที่มีฮาร์ดดิกส์เก็บเป็นฟุต ( แล้วเขียนแผ่นเก็บไว้ )
ปัจจุบันมีหลากหลายให้เลือก ราคาก็ประมาณ 10,000 เหมือนกัน h
ttp://www.mc.co.th/eshop/13-video-converter รายละเอียดตามนี้
ข้อดีคือ เครื่องนี้สามารถใช้ต่อดูทีวีธรรมดาได้ ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อสายHDMI ยาว ถ่ายงานสัมมนาลูกค้าต้องการออกโปรเจคเตอร์ก็ใช้เครื่องนี้ได้เลย
ข้อเสียคือ สัญญาณที่ออกมาจะถูกบีบอัดไม่ใช้ไฮเดฟเหมือนต้นฉบับ( วิธีที่ 1 ) แต่คุณภาพก็โอนะคับ ( คุณภาพเท่ากับกล้องดีวีปัจจุบัน )
สำหรับเครื่องเขียนแผ่นดีวีดีแบบมีฮาร์ดิกส์ในตัว ( ธรรมดาไม่ใช่ไฮเดฟ ) ใครที่ทำงานเกี่ยวกับ งานแต่งงาน, งานสัมมนา หรือไว้ใช้เพื่อเก็บข้อมูล
ก็ดี อยากให้มีไว้เพราะคุณสมบัติดีเหลือหลาย สามารถช่วยงานคุณได้เยอะมาก เช่น งานแต่งงาน เราถ่ายมาเสร็จก็โหลดเข้าเครื่องดีวีดีนี้เลย
ตรงไหนเสียก็เอาออก เช่นช่วงกลางเอาท์โฟกัสก็ตัดช่วงนั้นออก ( ตัดต่อในเครื่องดีวีดีได้เลย ) จะมาทำไตเติ้ลใส่ทีหลังก็ได้ เครื่องดีวีดีก็จะรวม
ทุกอย่างเป็นก้อนเดียวกัน สลับก้อนหน้ามาอยู่หลังก็ทำได้ แถมก๊อปก็เร็ว ถ้าไม่มีเจ้าเครื่องดีวีดีนี้ ใช้คอมก็ทำได้แต่เสียเวลามาก
วิธีที่3. ก็คือวิธีที่ก๊อปผ่านโดยใช้คอมฯแม้คุณจะก๊อปงานลงคอมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ยังอยากให้คุณเขียนแผ่นฟุตงานแยกต่างหากออกมาเก็บไว้
สรุปนะคับ.. เท่าที่ลองทำดูมา วิธีที่ 1 โอสุดๆเพราะเราสำรองข้อมูลไว้ทุกขั้นตอน หากการ์ดหายเราก็ไม่กลัวเพราะมีแผ่นดีวีดีเก็บไว้
สำหรับขั้นตอนที่ 2 การมีเครื่องดีวีดีมีฮาร์ดดิกส์ในตัวก็ดี สามารถอัดอะไรเก็บไว้ได้หมดทุกขั้นตอน เช่น เก็บฟุตต้นฉบับ เก็บงานตัดต่อ
ที่ตัดยังไม่เสร็จ เวลาเราดูงานก็อัดดีวีดีไปด้วยในตัว เผื่อคอมพังเรายังมีงานที่อัดเก็บไว้ในดีวีดี เราสามารถโอนกลับมาใช้ได้ภายหลัง
ส่วนวิธีที่ 3 เก็บในฮาร์ดิกส์โดยผ่านคอมฯ ทฤษฏีเยอะมาก แต่พอเอาเข้าจริงไม่ค่อยมีใครสำรองไว้ อาจทำได้ก็เฉพาะโปรดัคชั่นใหญ่ๆเท่านั้น
แต่ถ้าโปรดัคชั่นเล็กๆคงไม่มีเงินซื้อฮาร์ดิกส์ มาสำรอง 3-4 ลูก แนะนำให้ซื้อเครื่องดีวีดีREC ที่มีฮาร์ดิกส์ในตัวมาทำหน้าที่แทนจะประหยัดกว่า
250 G เครื่องไม่กี่พันซื้อเถอะ สามารถทำหน้าที่แทนคอมได้เยอะมากๆ เอะอะอะไรก็ใช้คอมทำ สงสารมันบ้างใช้งานน้อยๆจะได้อยู่กับเรานานๆ
………ไหนๆก็เขียนแล้ว เลยขอเสริมนิดนะคับ วิธีการเก็บการ์ดที่ถูกวิธี
1. ควรระวังให้มากๆ สำหรับการ์ดที่ถ่ายแล้ว ( ใช้งานแล้ว ) ระวังอย่าให้ตกเป็นอันขาด ( ยำ้ 3 ครั้ง )
เพราะมีโอกาสงานที่ถ่ายไว้หายหมดเคยมีช่างภาพงานแต่งงานเจอมาแล้วนะคับ บางคนอาจไม่หายก็อย่าเพิ่งดีใจ โอกาสแจ๊กพ็อตมีคับ
2. ระวังการ์ดหล่นหาย เห็นหลายคนพกการ์ดเต็มกระเป๋ายีนส์ ถ่ายหยิบกระเป๋าซ้ายเก็บกระเป๋าขวา ล้วงไปมาเปอร์เซ็นต์หล่นหายเยอะ
3. ระวังอัดซำ้ เจอมาหลายรายกรณีนี้ ด้วยความรีบ หรือกลัวลูกค้ารอ ตั้งใจหยิบการ์ดเปล่าแต่มือเผลอไปหยิบงานเพิ่งถ่ายมาลบทิ้งเฉย
ขั้นตอนในการทำงาน บันทึกด้วยการ์ดที่ถูกวิธีคือ
1. ก่อนถ่ายงานให้ตรวจดูการ์ดทุกอัน ว่าได้จัดการลบงานทิ้งหมดทุกอันหรือเปล่า อันไหนลบแล้วก็ติดสติ๊กเกอร์เบอร์เอาไว้ และถ้าจะให้ดีควรเขียนที่อยู่
เบอร์โทรศัพท์ ของเราลงในตัวการ์ด เผื่อทำหล่นหายเขาจะได้โทรกลับติดต่อมาที่เราได้
2. การ์ดที่ถ่ายเสร็จแล้วควรเขียนชื่องานลงในสติ๊กเกอร์ที่ติดบนการ์ด งานอะไร วันที่เท่าไหร่ เบอร์1-2 เสร็จแล้วก็ใส่ในกล่องติดสก๊อตเทปปิด
กล่องพลาสติกเลย ในกรณีที่ถ่ายแล้ว และแยกเก็บไว้ในช่องอื่นไม่ปะปนกับที่ยังไม่ได้ถ่าย
3. ถ้าจะให้ดีควรมีโน๊ตบุ๊คโอนถ่ายข้อมูล สำรองไว้ก่อนก็ดีในกรณีการ์ดหล่นหายในภายหลัง ( แม้จะระวังแล้วก็ตาม )
4. หากล่องยาที่มีหลายๆช่อง ( ร้าน 60 บาท ) นำมาใส่การ์ดแทนก็ดี เพราะการ์ดเล็กๆหลายๆอันรวมเป็นกล่องใหญ่กล่องเดียว โอกาสหาย
มีน้อย เพราะกล่องใหญ่มองเห็นง่ายเก็บสะดวก ใส่ตรงไหนนูนออกมาแสดงว่าการ์ดยังอยู่ครบ ( แต่ถ้าหายก็หายหมดเหมือนกันนะ )
ณ วันนี้ สิ่งที่เราต้องระมัดระวังให้มากที่สุดก็คือการสำรองข้อมูล ทำหลายๆขั้นตอน สำรองให้เยอะไว้ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ อย่าคิดว่าไม่จำเป็น
หรือกลัวเสียเวลา โปรดัคชั่นใหญ่ๆเขามีระบบสำรองที่ดีอยู่แล้ว ห่วงแต่โปรดัคชั่นน้องใหม่นี่แหละถ้างบจำกัดก็ต้องระวังให้มาก การสำรองข้อมูล
ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง คือความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในโปรดัคชั่น ถ้างานเสียหรือหายทุกคนมีความผิดหมด หลายขั้นตอนยังไม่ระมัด
ระวังในหน้าที่นี้ เช่นมอบงานให้คนตัดต่อไปทำที่บ้าน ( โดยไม่สำรองข้อมูลไว้ก่อน )คนตัดต่อขี่มอเตอร์ไซต์เกิดอุบัติเหตุ ทำการ์ดหล่นหาย
ทีนี้ทำไงล่ะจะให้คนตัดต่อชดใช้เป็นเงินหรือ คงเป็นไปไม่ได้แน่ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ให้ทุกคนทุกแผนกพยายามสำรองข้อมูลขั้นต้นไว้ก่อน จะวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้
….การทำงานโปรดัคชั่นไม่ว่าเราจะหาวิธีการไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างไร ต่อให้รัดกุมและป้องกันดีแค่ไหน มันก็เกิดขึ้นอยู่ดี และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จงพยายามหาสาเหตุและแก้ไขเพื่อที่จะไม่ให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นซำ้อีก แต่อย่างหนึ่งที่ขอเลยก็คือ อย่าโทษคนอื่นหรือมานั่งด่ากันและกัน เพราะปัญหามันเกิดขึ้นไปแล้วทะเลาะกันไปก็เปล่าประโยชน์ สิ่งที่เสียไปแล้วคงไม่มีทางหวนกลับคืนมาดีอย่างเดิมได้ แต่สิ่งที่เสียไปเลยแล้วยากจะกลับมาดีเหมือนเดิม ก็คือ" มิตรภาพของคนทำงาน " นั่นเอง.." แอบดีใจกับคนที่ไม่มีความสุขอยู่นะคับ "
[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-07-17 09:37 ]