อัพเดต
วันที่ 14-15 นี้กระผมจะขึ้ืนไปเหนือ เพื่อ Scout Location ทั้งเชียงราย และเชียงใหม่ วันที่ 14-15 สิงหาคม นี้นะครับ ได้รับการประสานงานเพื่อขอเข้าไปถ่ายทำในดอยตุงโดยเพื่อนสมาชิก TDF ของเราใช้นามว่า changbox นะครับ ทางดอยตุงยินดีให้ความร่วมมือ และจัดที่พักให้ที่ดอยตุง เพื่อจะได้ไม่ต้องย้ายกองกันบ่อยๆ ด้วยครับ ต้องขอบคุณ คุณ changbox และพี่ทีมงานของดอยตุงที่ใจดีมากๆ มา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับตำแหน่งนั้นตอนนี้มีเพื่อนสมาชิกอีกท่านหนึ่งชื่อคุณ dchutinaton ยินดีจะมาทำตำแหน่งผู้กำกับภาพให้ครับ และก็จะบินไปเจอกันที่ดอยตุงในวันที่ 14 นี้ เพื่อจะดูสถานที่ถ่ายทำด้วย ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ยังรอเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านมาร่วมกันสร้างสรรค์หนังสั้นเรื่องนี้อยู่นะครับ ใครอยากทำ หรือมีส่วนร่วมในตำแหน่งไหน ก็มาพูดมาคุยกัน หรือจะแจ้งกันเข้ามาในโพสต์ก็ได้ครับผม
ขอบคุณครับ
บุญญฤทธิ์ (อาท)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้มีจดหมายส่งมาแจ้งเรื่องหนังสั้นที่ผ่านเข้ารอบ แต่ปรากฏว่ากำหนดการณ์ดันเปลี่ยนแปลงไปครับ จากที่เคยให้ส่งหนังสั้นตัวเต็มวันที่ 1 ตุลาคม เลื่อนเข้ามาเป็น ไม่เกิน 9 กันยายนครับ กำหนดการณ์เดิมที่จะถ่ายช่วงกลางกันยา ก็คงมีอันต้องเร็วขึ้นมาอีกครับ (จะหาทุนทันไหมเนี่ย) และประกาศรายชื่อเรื่องที่เข้ารอบ จากเดิมจะเอาทั้งหมด 84 เรื่อง เพื่อเทอดพระเกียรติ 84 พรรษา ก็เหลือแค่ 18 เรื่อง ตามนี้เลยครับ
http://www.kontamnung.com/announcement.phpชักปวดหัว กลัวว่าจะไม่มีเวลาทำเสียแล้วสิครับ ถ้าอย่างไรจะแจ้งความคืบหน้าแก่ทุกท่านที่แสดงความจำนงค์จะช่วยทำหนังสั้นเรื่องนี้ให้ทราบเป็นระยะๆ ครับผม
อันนี้เป็นจดหมายที่แจ้งมาครับ จะเป็นข่าวดี หรือข่าวร้ายกันแน่เนี่ย (ที่เลื่อนกำหนดเข้ามา)
******************************************************************************************************************UPDATED********************************************
วันนี้พี่ ภาม รังสี ผู้กำกับภาพยนตร์โทรเข้ามือถือผม ผมตกใจ และตื่นเต้นมากทีเดียว เพราะติดตามผลงานพี่เขา และเห็นว่าพี่เขาเป็นผู้กำกับคุณภาพคนหนึ่ง เขาโทรมาแจ้งว่า เรื่องย่อสำหรับทำหนังสั้นของผมได้ผ่านเข้ารอบ ให้เดินหน้าทำให้สุดกำลัง และให้อาร์ตสุดๆ (ฮิ ฮิ ฮิ ผมมันทำหนังอาร์ตไม่เป็นเสียด้วย ถนัดแต่หนังตลาด ฮิ ฮิ ฮิ) ตามเนื้อเรื่องก็คงจะต้องไปถ่ายทำที่ เชียงใหม่ เชียงราย แถวๆ นั้นครับ อยากมาขอแรงพี่ๆ น้องๆ ชาว TDF ที่มีเวลาว่าง และอยากร่วมทำหนังเพื่อเทอดพระเกียรติในหลวงกัน มาร่วมทำหนังสั้นเรื่องนี้กัน ทุุนรอนคงจะมีไม่มากอะไร เพราะใช้ทุนส่วนตัวผมเอง แต่คิดว่า จะทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่ปัจจับต่างๆ จะเอื้ออำนวยครับ และสำหรับผมปัจจัยสำคัญที่สุดของการทำหนังก็คือ กำลังของมนุษย์ นี่แหละครับ ทั้งกำลังใจ และกำลังแรงของคนครับ หรือถ้ามีเพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนใน TDF เรื่องย่อผ่านเหมือนกัน จะให้ผมไปช่วยทำ แล้วตอนผมทำก็มาช่วยผม สลับกันก็ยินดีนะครับ ร่วมเทอดพระเกียรติในหลวงในฐานะของคนทำหนังอย่างเราพอจะทำได้ ก็คือ ถ่ายทอดผ่านไปทางหนังนี่แหละครับ
นี่เป็นประชาสัมพันธ์ของการประกวดครั้งนี้ครับ
และเวปไซต์ของการประกวดครับ
http://www.kontamnung.com/index.phpนี่เป็นเรื่องย่อที่ผ่านเข้ารอบนะครับ
เรื่อง… CrossCulture (ข้ามวัฒนะ) Bob เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรณ์ที่ให้ทุนสนับสนุนแก่โครงการแม่ฟ้าหลวงเขาถูกส่งตัวจากอเมริกามาเยี่ยมชมโครงการที่ประเทศไทยอย่างไม่เต็มใจนัก Bob เหมือนอเมริกันทั่วไปที่ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ ติดความไฮเทคสะดวกสบาย และที่สำคัญชีวิตเขาผูกติดอยู่กับเวลาเมื่อถึงไทย เขาพลาดเครื่องบินที่จะต่อไปเชียงราย จึงต้องไปขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต 2เขาพบเห็นความวุ่นวายของชีวิตเมืองหลวง การจราจรที่ติดขัด เขามองดู PDAของตนเป็นระยะๆ และนอนหลับไปเพราะความเพลีย เขาก็ได้พบ พิม ซึ่งมารับเขาที่สถานีรถพิม เพิ่งมาทำงานเป็นนักวิชาการเกษตรแก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เธอมีหน้าที่พา Bob ไปชมโครงการต่างๆ ที่นี่ Bob ได้เรียนรู้ความหมายของการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงผ่านคำบอกเล่าในการดำเนินชีวิตประจำวันของสมเด็จย่าและเขาก็ค่อยๆ มองเห็นความงดงามของ พิม ที่คอยดูแลเขามาตลอด เมื่อต้องกลับ Bob รู้สึกลังเล เขาปรับตัวใช้ชีวิตบนดอยตุงได้ดีและรู้สึกหวั่นไหวที่ต้องกลับไปใช้ชีวิตเดิมๆ ในเมืองใหญ่อันวุ่นวาย PDA ที่เป็นตารางเวลาประจำวันของเขา อยู่ที่นี่มันก็ไร้ความหมาย พิม มาส่ง Bob ขึ้นรถกลับกรุงเทพ Bob มอบ PDA แก่พิม เขามองตาพิม แล้วก็จากไป พิม ได้แต่หวังลึกๆ ว่า การทิ้ง PDAของ Bob คือสัญญาณบ่งบอก ว่าเขายินดีทิ้งความสับสนวุ่นวายในบ้านเกิดแล้วจะกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้ง
ผมขยายขึ้นมาอีกนิด เกือบๆ จะเป็น Treatment แล้วครับ ส่วน บทหนังสั้น แบบสมบูรณ์ กำลังพัฒนาอยู่ครับ ถ้าเสร็จแล้วจะส่งทางเมล์ให้กับท่านที่เข้าร่วมเป็นทีมงานและมีหน้าที่นะครับ ขออนุญาติไม่โพสต์ที่นี่ครับ
เรื่อง… CrossCulture (ข้ามวัฒนะ) โดย บุญญฤทธิ์ อ่อนละออ โทร.0859181545 เมล์:boonyarit31215@hotmail.com
Robert เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรณ์ที่ให้ทุนสนับสนุนแก่โครงการแม่ฟ้าหลวงเขาถูกส่งตัวจากประเทศอเมริกาเพื่อมาเยี่ยมชมโครงการที่ประเทศไทยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักRobert เองก็เช่นเดียวกับคนอเมริกันทั่วไปที่ใช้ชีวิตค่อนข้างฟุ้งเฟ้อติดความไฮเทคสะดวกสบาย รับประทานอาหารขยะฟาสต์ฟู้ดต่างๆ และที่สำคัญชีวิตของเขาผูกติดอยู่กับ...เวลาเมื่อมาถึงเมืองไทยเขาต้องการจะต่อเครื่องบินไปยังเชียงใหม่แต่เที่ยวบินเต็มเพราะเขาไม่ได้จองล่วงหน้า เขาจึงต้องเดินทางด้วยแท็กซี่ไปขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต2ต่อไปยังเชียงราย ระหว่างนั่งแท็กซี่นั้นเขาก็ได้พบเห็นความวุ่นวายต่างๆของชีวิตในเมืองหลวง ทั้งการจราจรที่ติดขัด Robert ได้แต่มองดู PDA ของตนเป็นระยะๆทั้งความสับสนอลหม่านของผู้คนที่ต่างเร่งรีบขึ้นรถประจำทางไปทำงาน ทั้งการต่อคิวแถวยาวเหยียดเพื่อซื้ออาหารรับประทานรวมทั้งผู้คนหลากหลายวุ่นวายมารวมตัวกันที่หมอชิต 2 เพื่อจะเดินทางไปยังจุดหมายของตนเมื่อรถประจำทางออกจากกรุงเทพเข้าสู่เขตต่างจังหวัด ภาพความวุ่นวายต่างๆ ก็ค่อยๆเบาบางลง Robert นอนหลับไปเพราะความเพลีย Robert ต้องตกใจตื่นเมื่อพนักงานบนรถประจำทางปลุกเขาว่าถึงจุดหมายแล้ว และเขาก็ได้พบกับพิม ที่มาคอยรับเขาที่สถานี พิม เป็นบัณฑิตสาวจบจากคณะเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ภาควิชาพืชสวน เพิ่งมาทำงานเป็นนักวิชาการเกษตรให้แก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้ 3ปี เธอมีหน้าที่พา Robert ไปชมโครงการต่างๆที่สมเด็จย่าท่านทรงมีพระดำริให้ก่อตั้งขึ้น แต่ละวันที่ผ่านไป Robert ได้เรียนรู้ถึงความหมายของการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงจากคำบอกเล่าในการดำเชีวิตประจำวันของสมเด็จย่าเขาได้เรียนรู้ที่จะเชื่อใจผู้คนจากการไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา ที่เขาให้เด็กชาวเขาช่วยถ่ายภาพคู่เขากับพิมแต่พอเขาเผลอเด็กนั่นก็หายไปพร้อมกับกล้องของเขา แต่แล้วเด็กก็กลับมาพร้อมกล้องหนูน้อยแค่วิ่งหายไปซื้อไอศครีมมากินเท่านั้น หนูน้อยไม่สนใจกล้อง แต่ดูจะสนใจ PDAประจำตัวของ Robert อยู่ไม่น้อย เพราะมันสามารถใช้เล่นเกมได้ Robert ได้เรียนรู้น้ำใจของคนพื้นเมืองที่เขาไปนอนพักค้างคืนด้วยแบบ HomeStay เขาได้รับประทานอาหาร ผัก และผลไม้ปลอดสารพิษที่ปลูกโดยชาวเขาในโครงการหลวงมันช่างแตกต่างจากอาหารขยะที่เขากินเป็นประจำโดยสิ้นเชิง เขาเรียนรู้ว่าผู้คนบนดอยตื่นแต่เช้าตรู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกพวกเขาอาศัยนาฬิกาชีวะในร่างกายเป็นตัวบอกเวลา เขาได้ไปเก็บใบชากับชาวเขา และเขาก็เริ่มค่อยๆมองเห็นความงามของ พิม หญิงสาวที่คอยดูแลเขามาตลอดในระหว่างอยู่เมืองไทยเมื่อครบกำหนดที่เขาต้องกลับคืนสู่บ้านเกิด Robert รู้สึกลังเลใจไม่น้อยเขาปรับตัวเข้ากับสภาพชีวิตบนดอยตุงได้ดีทีเดียว และรู้สึกหวั่นไหวที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตการงานในเมืองใหญ่อันวุ่นวายแบบที่เคยเผชิญมาเขาเคยคิดว่าการใช้คอมพิวเตอร์เล่น Internet นั้นเป็นเสมือนยาเสพติด เขาต้องทำมันทุกวัน แต่ที่นี่ทำให้เขารู้ว่า เขาเลิกมันได้และมีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่าที่เขาควรให้เวลาแก่มัน PDA ที่เป็นตารางเวลาในแต่ละวันของเขาเมื่ออยู่ที่นี่ มันก็แทบจะไม่มีความหมายเพราะผู้คนที่นี่ใช้ธรรมชาติเป็นตัวกำหนดตารางการดำเนินชีวิต พิมและเด็กชาวเขามาส่ง Robert ขึ้นรถไฟไปกรุงเทพเพื่อขึ้นเครื่องบินต่อกลับไปยังอเมริกา Robert มอบ PDAของเขาให้แก่เด็กชาวเขาคนนั้นไป และเขาก็ยิ้มให้กับ พิม ทั้งคู่มองตากันครู่หนึ่งแล้ว Robert ก็จากไปพิม ได้แต่คิดหวังอยู่ลึกๆ ว่า การทิ้ง PDA ของ Robert มันคือสัญญาณที่บ่งบอกว่า เขายินดีจะทิ้งความสับสนวุ่นวายต่างๆในบ้านเกิด แล้วจะกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้งคือ พี่ ภาม แก อยากได้แบบ Art Art น่ะครับ แกบอกว่า ทำมาให้อาร์ตที่สุด ก็ไม่รู้ว่าจากเรื่องย่อนี่ แกเห็นความ Art อะไรของมัน ฮิ ฮิ ฮิ เอาเป็นว่า ทำแบบที่เราอยากเห็นดีกว่าครับ จะ Art ไม่ Art นี่ คงต้องให้กรรมการเขาไปตัดสินเองแล้วกันครับ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Pre-Pro ตำแหน่งต่างๆ ก็ยังไม่มีใครรับผิดชอบเลยครับ นอกจากผมซึ่งคงจะเขียนบท กำกับ และอาจจะตัดต่อเอง ถ้าใครอ่านเรื่องย่อแล้ว ไม่ถูกใจ ก็บอกผ่านไปไม่เป็นไรครับ แต่ใครอ่านแล้วคิดว่า อืม น่าสนใจ และอยากเห็นมันเป็นหนังไปโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์ ก็แจ้งกันมาเลยครับว่า อยากทำตำแหน่งไหน ถ้าเป็นไปได้จะได้มาร่วมกันทำให้หนังสั้นเล็กๆ เรื่องนี้ให้สำเร็จออกมาครับผม
ขอบคุณครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย boonyarit เมื่อ 2011-08-13 14:16 ]