ลองหาหนังในดีวีดีที่มีหรือที่ยืมได้ มาลองตัดตามบทที่เราเขียน
แล้วดูที่ละฉาก ดูว่าต้องใช้อะไรบ้างสถานที่ยังไง ตัวละครกี่ตัว
มุมกล้องยังไง อาจไม่ต้องทำสตอรี่บอร์ด แค่ดูฉาก ตัวละคร บทให้คล้าย
แสงอย่าดู(ในบางเรื่อง)เพราะถ่ายตามแสงจากหนังบางเรื่องเท่ากับหาเรื่องเผาเงินทิ้ง
ลองทำเบรคดาวดีๆ สถานที่ไหนใช้ครั้งเดียวในเรื่อง สถานที่ไหนใช้หลายครั้ง
ตัวละครถ่ายเยอะตัวสุดฉากไหน น้อยสุดฉากไหน วางเวลาดีๆ
จะทำให้งานราบรื่น เรื่องทุน มีกล้อง DSLR ที่ถ่าย full HD ได้ซักตัว
การ์ดความเร็วสูงฟุตเทจ 3 นาทีต่อ 1 gb หนังคุณถ่ายวันละกี่นาที มี 16 GB ซัก 3การ์ด คลาส10
แบตกล้อง 3 ก้อนเต็มๆ ทุกวันถ่ายทำ มีแบคอัพเป็นโน้ตบุคอาร์ดดีส ว่างๆ ไป
ขาตั้งกล้องที่แพนทิ้วได้เนียนๆ เลนส์คิท เลนส์16-35f2.8 เลนส์ 50f1.8
หากต้องถ่ายไกล(ริมคลอง ริมถนนต้องซูมหานักแสดง) ก็คงต้องมี 70-200f2.8 อีกตัว ก็พอทำได้แล้ว
หาไวเลสหรือไมค์บูมมาใช้ จ้างคนแต่งเพลงประกอบ
หากต้องใช้แสงในอาคาร
หาโคมไฟ หรือทำเอง หลอดฟลูอเรสเซนต์ คอมแพคใหญ่ๆ จีนถูกๆ มาใช้ก็พอไหว
เน้นถูก เข้าว่า แต่ทางที่ดีจัดแสงให้น้อยสุด จะธรรมชาติสุด
นอกอาคารให้มากหรือหาฉากในที่สวยอยู่แล้ว สุวรรณภูมิ รถไฟฟ้า
เรื่องนักแสดง ลองประกาศหาช่วงปิดเทอม มีเด็กนักศึกาอยากทำพอร์ตมากมาย
ลองคุยดู อาจจะเลี้ยงข้าว ให้ค่ารถ ทำเสร็จไรท์ให้ทำปกให้เฉพาะคน
เพื่อที่นักแสดงเหล่านั้นจะได้มีฟอร์ตของตนเอง
คราวนี้เรื่องชุดนักแสดง เดินแพตตินั่มประตูน้ำ หาชุดที่ใช่
หากแพงไป(ถูกแล้วนะที่นั่น) หามือสองตามข้างคลองหลอดพอมี
เลือกให้เข้ากับตัวละครที่เราเขียน เรื่องที่เราเขียน
ลองเดินดูให้ทั่วก่อน ประมาณราคาให้ได้ แล้วจะหาทุนอย่างไร อันนี้เรื่องยากสุด
เอาบทไปหาค่ายหนัง แนวไหน ตลกไปพระนครฟิลม์
รู้สึกดีให้แรงบันดาลใจไป GTH
เลือดแรงบู้ถึงอารมณ์ ไปสหมงคลฟิลม์ หรือโมโนฟิลม์
มีเท่งโหนงตุ๊กกี้ไปเวอร์กพอย์ท
หนังอาร์ต ดาราเก่งมาก หนังอาจไม่ได้เงินแต่บทดีโครตน่าได้รางวัลไปไฟร์สตาร์
แน่นอนว่าทุกที่อาจไม่อ่านบทเลยด้วยซ้ำ
หากจะรอมีหนังร่วมๆ 60 เรื่องต่อปีที่ทำออกมา
มีบทวิ่งเข้าไปให้เขาอ่าน 3,000 บทขึ้นไปต่อที่
บทเจ๋งแค่ไหนเขาอาจไม่สน เขาจะสนว่าคุณเป็นใคร
เขาจะได้อะไรให้เขาได้เงินบ้าง ชื่อเรื่องถึงไหม เช่น รับน้องสยองขวัญ
ขายได้เพราะชื่อเรื่องโดนใจเสี่ยเจียง
แค่ความเห็นส่วนตัว ผมทำบทไปเสนอหมดแล้วทุกค่าย ไม่เคยมีการตอบกลับใดๆ
ปลูกผักสวนครัวกินยังได้กินเอง ทำกับข้าวกินเอง รับถ่ายรูปไปเรื่อย
ออกแบบสิ่งพิมพ์ไปเรื่อยยังได้เงินเรื่อยๆ แน่นอนกว่า
เอาเรื่องที่เราคิดเขียนแทบตายไปวางทิ้งไว้ทุกค่ายหนังแล้วเค้าไม่อ่านเลย
ค่อยๆ ปรับบทให้ใช้เงินน้อยสุด เวลาน้อยสุด จัดแสงน้อยสุด นักแสดงน้อยสุด ใช้เงินน้อยสุด
ถึงอารมณ์มากสุดให้ได้ก่อนแล้วให้คนเกลียดเราที่สุดอ่าน ฟังเขาไว้ทุกคำติ ชม ปรับบทได้ปรับ
เมื่อคิดแล้วคิดอีกว่าต้องทำหนังเรื่องนี้ให้ได้ไม่อย่างนั้นจะตายตาไม่หลับ
ก็ไปหาทุกอย่างที่ทำให้ทำหนังเรื่องนี้ได้มาทำ สู้ๆ
ฝากหนังสั้นหลังจากคุยกับสหมงคลแล้วคนที่นั่นยุให้ทำหนังสั้นก่อน ดู
http://www.youtube.com/watch?v=iS38zsAGMp4(ให้ตัวละครมากสุดมารวมกันก่อนแล้วถ่ายให้เสร็จรีบปล่อยกลับ แล้วจึงใช้ตัวละครน้อยสุด เดินเรื่อง ในสถานที่สาธารณะไม่จัดแสง
ไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ เอาMP 3 อัดเสียงไว้ตลอดในเสื้อนักแสดง อ่านช่วงท้ายจะบอกเวลาถ่ายทำ ทำเสร็จทำDVD แจกทุกคนที่ร่วมงาน สบายใจ)
ส่วนทรีตเม้นที่ทำไปขายค่ายทั้ง 7 เรื่อง จดลิขสิทธิไว้แล้ว
http://puntisak.multiply.com/reviews ป่านนี้ค่ายเหล่านั้นเอาชั่งโลขายไปแล้วมั้ง